5 สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ONE Friday Fights 114 คือภาพสะท้อนของค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์ที่เวทีลุมพินี ซึ่งเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ดราม่า และศิลปะการต่อสู้อันลุ่มลึกของมวยไทย รายการนี้ไม่ใช่เพียงเวทีแข่งขันธรรมดา แต่เป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับนักสู้ดาวรุ่งจากทั่วโลกในการแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ หลายคนคว้าโอกาสนั้นไว้ได้อย่างงดงาม และบางคนก็ก้าวขึ้นมาเป็นว่าที่ดาวเด่นคนใหม่ของวงการมวยระดับโลก
นอกจากนักสู้หน้าใหม่แล้ว บรรดานักชกรุ่นเก๋าก็ยังไม่ยอมถอย พวกเขาใช้ประสบการณ์ เทคนิค และหัวใจนักสู้ แสดงให้เห็นว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคในการสร้างความประทับใจบนเวทีระดับโลก หลายคู่ชกในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความมันดุเดือดและจังหวะปิดเกมที่สะกดสายตาผู้ชมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหมัดน็อกที่เฉียบขาด หรือซับมิชชันที่แม่นยำในเสี้ยววินาที
สิ่งสำคัญที่สุดคือ รายการนี้ได้ตอกย้ำบทบาทของ ONE Friday Fights ในฐานะ “เวทีสร้างอนาคตของนักสู้” อย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะมาจากประเทศไหน เพียงแค่คุณมีใจ มีฝีมือ และพร้อมแสดงออกด้วยความเคารพในศิลปะแม่ไม้มวยไทย คุณก็มีโอกาสแจ้งเกิดบนเวทีนี้ได้
ONE Friday Fights 114 จึงไม่ใช่แค่ความบันเทิงรายสัปดาห์ แต่คือภาพสะท้อนของพลังศรัทธาที่มวยไทยยังมีอยู่ในหัวใจแฟนๆ ทั่วโลก และยืนยันอย่างหนักแน่นว่าลุมพินียังเป็นหัวใจของมวยไทย ที่กำลังเต้นแรงขึ้นอีกครั้งในเวทีระดับอินเตอร์
สรุป 5 สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ONE Friday Fights 114 ที่ลุมพินี ทั้งการแจ้งเกิดของดาวรุ่ง ฟอร์มเก๋าของนักชารุ่นใหญ่ และพลังของมวยไทยบนเวทีโลก
1. “ซัวแบล็ค” กลับมาแล้ว พร้อมล่าแชมป์อีกครั้ง

หนึ่งใน 5 สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ONE Friday Fights 114 คือการคืนฟอร์มของ ซัวแบล็ค ทอร์ ปราณ49 ที่แสดงให้เห็นถึงหัวใจนักสู้ของแท้ หลังจากแพ้รวด 3 ไฟต์ติดต่อกันและตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล เขากลับมาอย่างสง่างามด้วยชัยชนะเหนือ สังอาดฤทธิ์ ลูกไซยคงดิน นักชกรุ่นใหม่ไฟแรง พร้อมโชว์ฟอร์มเด่นด้วยการนับคู่ต่อสู้ได้ถึง 2 ครั้งในยกสุดท้าย การชกในครั้งนี้ตอกย้ำชัดเจนว่า ซัวแบล็ค ไม่ใช่ใครจะมาผ่านง่าย ๆ และตอนนี้เขากำลังกลับเข้าสู่เส้นทางล่าเข็มขัด 26 ปอนด์ที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของเขาอีกครั้ง
2. เมืองไทย ล้างแค้นสำเร็จ หลังแพ้เสกสรรมา 4 ครั้ง

“Elbow Zombie” เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ปลดล็อกความพ่ายแพ้ต่อ “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง ที่เคยแพ้มาแล้ว 4 ครั้งนอก ONE รอบนี้เมืองไทยมาด้วยความมั่นใจ เดินออกอาวุธเฉียบคม และคว้าชัยแบบสุดมันในแมตช์ที่ดุดันที่สุดแห่งปี นี่คือชัยชนะนัดที่ 3 ติดต่อกันใน ONE ของนักชกวัย 31 ปี ที่ดูจะกำลังเข้าฟอร์มดีที่สุดในชีวิต
3. ดาวรุ่งเปิดตัวแรง! โยนิส, เอลีย์ และ PTT สร้างชื่อทันที

การเปิดตัวของ 3 นักชกหน้าใหม่กลายเป็นไฮไลต์ของค่ำคืน
- โยนิส อานาเน่ วัย 17 ปี น้องชายของแชมป์โลกนาบิล โชว์ฟอร์มเกินวัย ไล่บดเอาชนะ หลิว จุนเฉา จากจีนแบบสมศักดิ์ศรี
- เอลีย์ อับเดลาลี จากฝรั่งเศส สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยชัยชนะเหนือ พีทีที อภิชาติฟาร์ม ในไฟต์สุดมันที่ลุมพินีแทบลุกเป็นไฟ
- ส่วน PTT แม้จะแพ้แบบเฉียดฉิว แต่สไตล์การชกที่เดินชนไม่กลัวใครก็ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนๆ ทันที
4. อนาคตของ ONE อยู่ในมือของ “ออนดาช” และ “ออร์ตีคอฟ”
ในค่ำคืนเดียวกัน มีนักชก 2 รายที่คว้าสัญญาเงินแสนดอลลาร์กับ ONE ได้สำเร็จ
- รอมฎาน “The Scorpion” ออนดาช วัย 18 ปี จากเลบานอน โชว์หมัดซ้ายพิฆาตน็อก ชาติพยัคฆ์ ศักดิ์สุนทร ในยกสอง กลายเป็นการยุติสถิติชนะรวด 7 ไฟต์ของฝ่ายตรงข้าม
- ขณะที่ อัสลัมจอน ออร์ตีคอฟ จากอุซเบกิสถาน ยังคงไร้พ่าย หลังเตะลำตัวเข้าเป้าสุดแรง ส่ง เพชรสุขุมวิท บอยบางนา ลงไปกองในยกต้นๆ การชกสไตล์ดุดันแต่แม่นยำของเขากำลังกลายเป็นอาวุธสังหารของอนาคต
5. “นาดากะ” คือซูเปอร์สตาร์จากญี่ปุ่นที่กำลังจะครองเวที

นาดากะ โยชินาริ เจ้าของแชมป์โลกมวยไทย 10 สมัย และว่ากันว่าเป็นนักมวยไทยจากญี่ปุ่นที่เก่งที่สุดตลอดกาล กลับมาใน ONE ครั้งที่สองด้วยผลงานระดับมาสเตอร์คลาส ไล่แต้มชนะ บรรลือโลก ศิษย์วัชรชัย อย่างไร้ข้อโต้แย้ง พร้อมยุติสถิติไร้พ่ายของฝ่ายตรงข้ามใน ONE ลงอย่างสง่างาม
นาดากะคว้าชัยมาแล้ว 38 ไฟต์ติดต่อกัน และกำลังมุ่งสู่ไฟต์ยิ่งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนที่โตเกียว เป้าหมายต่อไป: เข็มขัดแชมป์ ONE รุ่นอะตอมเวตมวยไทย!
รีดเพิ่มเติม:-
- 5 นักสู้มวยไทยรุ่นแบนตัมเวตอันดับต้นใน ONE CHAMPION 2025
- 5 อันดับนักสู้มวยไทยรุ่นเฟเธอร์เวทใน ONE Championship 2025
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ใครชนะในคู่เอกของ ONE Friday Fights 114?
– ซัวแบล็ค ทอร์ ปราณ49 ชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ สังอาดฤทธิ์ ลูกไซยคงดิน
2. เมืองไทย เคยแพ้ เสกสรร มากี่ครั้งก่อนชนะในไฟต์นี้?
– แพ้มาแล้ว 4 ครั้งนอกเวที ONE
3. นักชกหน้าใหม่คนใดเปิดตัวได้น่าประทับใจที่สุด?
– โยนิส อานาเน่ วัย 17 ปี โชว์ฟอร์มดีเกินวัย ชนะ หลิว จุนเฉา
4. ใครได้เซ็นสัญญาเงินแสนกับ ONE ในรายการนี้?
– รอมฎาน ออนดาช และ อัสลัมจอน ออร์ตีคอฟ
5. นาดากะ โยชินาริ กำลังมุ่งเป้าสู่ไฟต์ใดต่อไป?
– ไฟต์ใหญ่ที่โตเกียวในเดือนพฤศจิกายน เพื่อลุ้นเข็มขัด ONE มวยไทยรุ่นอะตอมเวต