10 นักฟุตบอลอายุเกิน 35 ปีที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2025

ในโลกของฟุตบอลอาชีพ ช่วงอายุเกิน 35 ปีเคยถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของปลายทางอาชีพนักเตะ แต่ในยุคปัจจุบัน หลายคนกลับยืนหยัดในระดับสูง พร้อมโชว์ฟอร์มอย่างน่าทึ่ง “ฟุตบอลอายุเกิน 35” จึงไม่ใช่ข้อจำกัดอีกต่อไป แต่กลายเป็นช่วงเวลาที่สร้างตำนานบทใหม่

ค้นพบ 10 นักฟุตบอลอายุเกิน 35 ปีที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี แอสซิสต์ และเซฟลูกสำคัญ พร้อมพิสูจน์ว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคของความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอล

1. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski) – อายุ 36 ปี

หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ที่ยังคงผลิตสกอร์ได้อย่างสม่ำเสมอกับบาร์เซโลนา แม้จะเข้าสู่ช่วงฟุตบอลอายุเกิน 35 แต่เลวานดอฟสกี้ยังคงเป็นตัวหลักในแนวรุก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับแข้งดาวรุ่งของทีม เขายิงไปถึง 27 ประตูในลาลีกาฤดูกาลที่ผ่านมา และยังเป็นนักเตะที่มีอิทธิพลทั้งในสนามและห้องแต่งตัว ความสามารถในการจบสกอร์ทั้งเท้าซ้าย เท้าขวา และลูกโหม่งยังเฉียบคมเช่นเดิม

จุดเด่นสำคัญ:

• ยิงประตูสม่ำเสมอแม้อายุเกิน 35
• ประสบการณ์สูงผสมผสานพลังของทีมรุ่นใหม่
• ยังเป็นตัวหลักในแนวรุกของบาร์ซ่า

2. ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi) – อายุ 38 ปี

แม้จะย้ายจากยุโรปมาอยู่กับอินเตอร์ ไมอามี่ ใน MLS แต่เมสซี่ยังเล่นได้ในระดับสูง และมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทีมใหม่ให้ประสบความสำเร็จในทันที โดยเฉพาะการพาทีมคว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์สโมสร “ฟุตบอลอายุเกิน 35” ของเมสซี่คือบทพิสูจน์ว่าอัจฉริยะลูกหนังยังสามารถเปล่งประกายได้แม้กาลเวลาจะผ่านไป เขายังมีสถิติการแอสซิสต์สูง และมีวิสัยทัศน์ในเกมที่หาใครเทียบได้ยาก

จุดเด่นสำคัญ:

• คว้าแชมป์ทุกระดับ รวมถึงฟุตบอลโลก
• เล่นเกมรุกด้วยวิสัยทัศน์และความแม่นยำ
• ยังเป็นผู้นำในสนามทั้งด้านเทคนิคและจิตใจ

3. ลูก้า โมดริช (Luka Modrić) – อายุ 39 ปี

มิดฟิลด์พรสวรรค์จากโครเอเชียยังคงได้รับความไว้วางใจจากเรอัล มาดริด แม้อายุจะใกล้ 40 ปีแล้วก็ตาม เขายังคงเป็นผู้เล่นตัวจริงที่สามารถพลิกเกมได้ และยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองในระดับสูง การจ่ายบอลที่แม่นยำ การวางบอลยาวอันเฉียบคม และความเยือกเย็นภายใต้ความกดดันคือเอกลักษณ์ของเขา

จุดเด่นสำคัญ:

• ครองเกมแดนกลางด้วยความฉลาดและจังหวะบอล
• ฟิตและพร้อมลงเล่นอย่างต่อเนื่องแม้อายุเกิน 35
• เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะรุ่นใหม่ทั่วโลก

4. มานูเอล นอยเออร์ (Manuel Neuer) – อายุ 39 ปี

ผู้รักษาประตูระดับตำนานของเยอรมนีและบาเยิร์น มิวนิก ยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีม แม้จะเจออาการบาดเจ็บหนักในช่วงก่อนหน้า แต่เขาฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง และยังคงมีบทบาทสำคัญในเกมด้วยสไตล์ “สวีปเปอร์-คีปเปอร์” อันเป็นเอกลักษณ์

จุดเด่นสำคัญ:

• ยังเซฟลูกยากได้แบบไม่มีตก
• ประสบการณ์ในเกมระดับสูงกว่า 500 นัด
• มีบทบาทนำในห้องแต่งตัวและในสนาม

5. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo) – อายุ 40 ปี

หากจะกล่าวถึงนักเตะที่เป็นต้นแบบของความเป็นมืออาชีพและวินัยอย่างแท้จริง คงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงระดับตำนานที่ยังคงสร้างความประหลาดใจให้แฟนบอลทั่วโลกด้วยฟอร์มอันร้อนแรงแม้ในวัย 40 ปี ปัจจุบันเขาค้าแข้งกับอัล-นาสเซอร์ ในลีกซาอุดิอาระเบีย และยังคงเดินหน้าทำลายสถิติอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีทีท่าจะหยุดพัก

ในฤดูกาล 2023/24 โรนัลโด้ระเบิดฟอร์มเกินวัย ยิงไปถึง 35 ประตูจาก 31 นัดในลีก พาทีมไล่ล่าความสำเร็จ และคว้ารางวัลดาวซัลโวประจำฤดูกาลได้อย่างน่าทึ่ง นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของพรสวรรค์ แต่เป็นผลลัพธ์จากความทุ่มเทในการฝึกซ้อม ความพิถีพิถันในการดูแลสภาพร่างกาย และแรงขับเคลื่อนจากความทะเยอทะยานที่ไม่มีวันจางหาย

ที่น่าทึ่งไปกว่านั้น โรนัลโด้ยังกลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวได้ใน 4 ลีกชั้นนำของโลก ได้แก่ พรีเมียร์ลีก, ลาลีกา, กัลโช่ เซเรียอา และลีกโปรของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งตอกย้ำสถานะความเป็นยอดนักล่าประตูระดับโลกที่ไม่ว่าไปอยู่ที่ไหน ก็สามารถสร้างอิทธิพลในสนามได้ทันที

จุดเด่นสำคัญ:

• ดาวซัลโวใน 4 ลีกใหญ่ของโลก
• ร่างกายแข็งแรงระดับยอดเยี่ยมแม้อายุ 40
• ยังเป็นแม่เหล็กทั้งในสนามและนอกสนาม

6. คาริม เบนเซม่า (Karim Benzema) – อายุ 37 ปี

แม้จะอำลาจากเวทีลาลีกากับเรอัล มาดริดไปแล้ว แต่คาริม เบนเซม่ายังแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในยุคของเขา หลังย้ายมาเล่นในลีกซาอุดิอาระเบียกับอัล-อิตติฮัด หลายคนตั้งคำถามว่าเขาจะสามารถรักษามาตรฐานการเล่นไว้ได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุเริ่มล่วงเลยเข้าสู่ปลายอาชีพ

ในช่วงแรกกับต้นสังกัดใหม่ เบนเซม่าต้องใช้เวลาในการปรับตัว ทั้งเรื่องระบบทีม สไตล์การเล่น และจังหวะของเพื่อนร่วมทีม ซึ่งทำให้ผลงานของเขาในระยะแรกดูไม่เข้าที่เข้าทางนัก อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถระดับโลกและความเข้าใจในเกมอย่างลึกซึ้ง เขากลับมาระเบิดฟอร์มในช่วงกลางถึงปลายฤดูกาล ยิงไปถึง 25 ประตูจาก 36 นัด ช่วยให้ทีมมีเกมรุกที่น่ากลัวขึ้นอย่างชัดเจน

นอกจากความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้ายแล้ว เบนเซม่ายังมีบทบาทในฐานะผู้นำที่ช่วยยกระดับเพื่อนร่วมทีมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการถอยลงมาต่อบอล การจ่ายบอลในจังหวะสำคัญ หรือแม้แต่การดึงดูดแนวรับเพื่อเปิดพื้นที่ให้เพื่อนทำเกม เขาคือกองหน้าที่เล่นเพื่อทีมอย่างแท้จริง และยังเป็นกำลังหลักของสโมสรในทุกมิติ

จุดเด่นสำคัญ:

• เปลี่ยนบทบาทจากเพลย์เมคเกอร์เป็นจอมสังหาร
• เป็นผู้นำแนวรุกให้ทั้งสโมสรและทีมชาติ
• ประสบการณ์ล้นเหลือจากเวที UCL

7. ยานน์ ซอมเมอร์ (Yann Sommer) – อายุ 36 ปี

ยานน์ ซอมเมอร์ คือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในยุโรปในยุคปัจจุบัน ด้วยประสบการณ์อันโชกโชนทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เขาโดดเด่นทั้งในแง่ของการป้องกันประตู การสื่อสารกับแนวรับ และความนิ่งในสถานการณ์กดดัน

ก่อนจะย้ายมาเฝ้าเสาให้กับอินเตอร์ มิลาน ซอมเมอร์เคยสร้างชื่อเสียงไว้ในบุนเดสลีกากับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค โดยเฉพาะในเกมที่เขาสร้างสถิติอันน่าทึ่งด้วยการเซฟถึง 19 ครั้งในนัดเดียว ซึ่งยังคงเป็นตัวเลขที่ถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้ การย้ายมาอิตาลีไม่ได้ทำให้มาตรฐานของเขาตกลงแม้แต่น้อย เขากลายเป็นมือหนึ่งของอินเตอร์ทันที และมีบทบาทสำคัญในการพาทีมคว้าชัยในหลายแมตช์สำคัญ

นอกจากจะมีทักษะในการเซฟลูกยิงได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ซอมเมอร์ยังขึ้นชื่อเรื่องการเล่นบอลด้วยเท้า การเปิดบอลแม่นยำ และการตัดสินใจในจังหวะออกมาตัดบอล ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจให้กับแนวรับได้เป็นอย่างดี แม้จะอยู่ในช่วงท้ายของอาชีพ แต่เขายังคงรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

จุดเด่นสำคัญ:

• ฟอร์มเสถียรทั้งกับทีมชาติและสโมสร
• การตัดสินใจและปฏิกิริยาที่ยอดเยี่ยม
• มีประสบการณ์จากหลายลีกระดับสูง

8. เฮนริค มคิตาร์ยาน (Henrikh Mkhitaryan) – อายุ 36 ปี

มิดฟิลด์มากประสบการณ์ชาวอาร์เมเนียยังคงรักษามาตรฐานการเล่นระดับสูงได้อย่างยอดเยี่ยมกับอินเตอร์ มิลาน แม้จะเข้าสู่ช่วงฟุตบอลอายุเกิน 35 ในฤดูกาล 2023/24 มคิตาร์ยานลงสนามอย่างสม่ำเสมอในฐานะตัวหลักของแดนกลาง และมีบทบาทสำคัญในการเดินเกมรุกให้กับทีม

เขาทำแอสซิสต์ได้หลายครั้งในเกมสำคัญ และยังคงโดดเด่นด้วยความแม่นยำในการจ่ายบอล การอ่านเกมที่เฉียบขาด และความฟิตที่เกินวัย ส่งผลให้เขากลายเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้อินเตอร์คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอาได้อย่างสง่างาม

จุดเด่นสำคัญ:

• บทบาทเป็นเพลย์เมคเกอร์ในแดนกลาง
• ทำเกมรุกและครองบอลได้อย่างมั่นใจ
• มีส่วนร่วมในความสำเร็จของทีมในทุกถ้วย

9. อังเคล ดิ มาเรีย (Ángel Di María) – อายุ 37 ปี

หลังจากกลับมาค้าแข้งกับเบนฟิก้าในปี 2023 อังเคล ดิ มาเรีย ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงราวกับย้อนวัยกลับไปสมัยพีก เขาทำไปถึง 17 ประตูและ 14 แอสซิสต์ในฤดูกาลเดียว กลายเป็นหนึ่งในตัวปั้นเกมที่อันตรายที่สุดของลีกโปรตุเกส และยังคงเป็นแกนหลักของทีมทั้งในเกมรุกและจังหวะลูกนิ่ง

แม้อยู่ในช่วงฟุตบอลอายุเกิน 35 แต่ดิ มาเรียยังมีสปีด ความคล่องตัว และความสร้างสรรค์ในการเล่นที่ไม่ลดลงเลย ความเก๋าเกมและการตัดสินใจที่แม่นยำช่วยให้เขายังครองพื้นที่ในสนามได้อย่างโดดเด่น และมีอิทธิพลกับเกมอย่างแท้จริง

จุดเด่นสำคัญ:

• ความเร็วและทักษะยังคงเฉียบคม
• สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ต่อเนื่อง
• ประสบการณ์จากสโมสรชั้นนำของยุโรป

10. ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ (Francesco Acerbi) – อายุ 37 ปี

ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ คือหนึ่งในนักเตะที่เติบโตจากจุดเริ่มต้นอันเรียบง่าย เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับทีมเล็กอย่างปาเวีย ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเล่นให้กับสโมสรระดับท็อปของอิตาลีอย่างลาซิโอ และในปี 2023 ได้ย้ายมาร่วมทัพอินเตอร์ มิลาน

แม้จะอยู่ในช่วง “ฟุตบอลอายุเกิน 35” แต่อาแชร์บี้กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ เขากลายเป็นกองหลังตัวหลักของอินเตอร์ มีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์เซเรียอา และพาทีมเข้าสู่รอบชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกถึงสองครั้ง ด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นความนิ่ง ความแม่นยำในการอ่านเกม และภาวะผู้นำ เขาคือแบบอย่างของนักเตะวัยเก๋าที่ยังพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง

จุดเด่นสำคัญ:

• การอ่านเกมและสกัดบอลที่ยอดเยี่ยม
• มีวินัยและสมาธิตลอดทั้งเกม
• กลายเป็นผู้นำแนวรับในทีมใหญ่ของยุโรป

อ่านเพิ่มเติม:-

• 10 นักเตะระดับแนวหน้าจากระดับรากหญ้าสู่ความยิ่งใหญ่
• 10 อันดับนักฟุตบอลที่คว้าถ้วยรางวัลได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)