Kunlavut Vitidsarn ฮีโร่แบดมินตันไทย สร้างประวัติศาสตร์โอลิมปิก ด้วยแรงบันดาลใจจากลิเวอร์พูล

ปารีส — Kunlavut Vitidsarn ฮีโร่แบดมินตันไทย สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในวงการกีฬาไทย ด้วยการเป็นนักแบดมินตันชายไทยคนแรกที่ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศประเภทชายเดี่ยวในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก หลังโชว์ฟอร์มสุดยอดเอาชนะ ลี ซี เจีย จากมาเลเซียไปแบบไร้ข้อกังขา 21-14 และ 21-15 ในรอบรองชนะเลิศของโอลิมปิก ปารีส 2024

เจ้าของแชมป์โลกชายเดี่ยวปี 2023 วัย 23 ปี กล่าวถึงความรู้สึกหลังแมตช์ว่า แม้จะรู้สึกตื่นเต้นและกดดัน แต่เขาจะพยายามควบคุมอารมณ์ให้ดีที่สุด เพื่อทำผลงานให้สมบูรณ์แบบในการลงสนามรอบชิงเหรียญทอง ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม โดยจะต้องพบกับคู่แข่งระดับโลกอย่าง วิคเตอร์ แอ็กเซลเซน มือวางอันดับ 1 ของโลกจากเดนมาร์ก

“ในรอบชิง ผมจะควบคุมอารมณ์ให้ได้มากที่สุด แล้วทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ ผมอยากไปถึงเหรียญทองให้ได้ครับ” – Kunlavut Vitidsarn ฮีโร่แบดมินตันไทย กล่าวด้วยความมุ่งมั่น

กลยุทธ์ของวิว: รุกให้หนักแต่ไม่ประมาท

กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ยืนยันอย่างชัดเจนว่าแนวทางการเล่นของเขายังคงเป็น “เกมรุก” ซึ่งเป็นสไตล์ที่เขาเชื่อมั่นและใช้มาตลอดอาชีพ โดยเฉพาะในแมตช์สำคัญอย่างรอบชิงชนะเลิศของโอลิมปิก ซึ่งเขาตระหนักดีว่าการเล่นเกมรับมากเกินไปอาจทำให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เนื่องจากการปล่อยให้คู่แข่งเป็นฝ่ายคุมเกมหรือได้จังหวะบุกก่อนอาจทำให้เสียคะแนนรวดเร็วและยากต่อการพลิกสถานการณ์กลับมา

อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวก็ไม่ลืมที่จะเน้นถึงความสำคัญของ “ความรอบคอบ” โดยเฉพาะในการดวลกับคู่แข่งระดับโลกอย่าง วิคเตอร์ แอ็กเซลเซน ที่มีจังหวะบุกที่เฉียบคมและลูกตบที่หนักหน่วง วิวจึงตั้งใจจะเล่นให้สมดุล ทั้งการบุกที่รวดเร็วแต่ไม่บุ่มบ่าม และการอ่านเกมที่เฉียบขาด พร้อมทั้งควบคุมจังหวะเกมให้อยู่ในมือให้มากที่สุด เพื่อไม่เปิดช่องให้คู่แข่งฉวยโอกาส

“ถ้าเราเล่นเกมรับมากเกินไป เราจะเสียแต้มเร็วครับ ผมเลยต้องยึดเกมรุกเป็นหลัก เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมถนัดที่สุด แต่ก็ต้องระวังไม่ให้บุกจนประมาทเกินไปด้วย ต้องอ่านจังหวะให้ดี และเล่นให้รอบคอบในทุกลูกครับ” – กุลวุฒิกล่าวด้วยความตั้งใจ

แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นนักกีฬามืออาชีพที่ไม่เพียงแต่อาศัยพละกำลัง แต่ยังวางแผนและปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์จริง เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายสูงสุดนั่นคือ “เหรียญทองโอลิมปิก” ที่ทั้งตัวเขาและแฟนแบดมินตันชาวไทยทั่วประเทศต่างรอคอยด้วยใจจดจ่อ

แรงบันดาลใจจาก “ลิเวอร์พูล” และพลังใจจากคนรัก

อีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของเขาคือแรงใจจาก “ลิเวอร์พูล” สโมสรฟุตบอลขวัญใจของเขา ในรอบ 16 คนสุดท้ายหลังจากชนะ เคนตะ นิชิโมโตะ จากญี่ปุ่น เขาให้สัมภาษณ์ว่า การที่ลิเวอร์พูลชนะอาร์เซนอล 2-1 ในแมตช์อุ่นเครื่อง ทำให้เขามีกำลังใจอย่างมาก

เช่นเดียวกับรอบรองฯ เมื่อถูกถามถึงฟอร์มของตัวเอง วิวยิ้มพร้อมพูดติดตลกว่า

“ลิเวอร์พูลชนะแมนยู 3-0 ครับ”

นอกจากนี้ คนที่ให้แรงใจเขามาตลอดการแข่งขันก็คือแฟนสาว “พิม อภิสรา” ที่เดินทางไปให้กำลังใจถึงฝรั่งเศสตั้งแต่รอบ 16 คนสุดท้าย

“วิวซ้อมหนักและตั้งใจมาตลอดค่ะ หนูมั่นใจว่าเขาจะได้เหรียญทองแน่นอน ตอนนี้เขาพร้อมทั้งใจและร่างกาย เหลือแค่ทำให้ได้ในสนามเท่านั้น”

🇹🇭 จากเด็กแบดในสนามพ่อ สู่ความสำเร็จระดับโลก

กุลวุฒิ เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 เป็นลูกชายของ ณัฐวุฒิ วิทิตศานต์ ซึ่งเป็นโค้ชแบดมินตัน และแม่ชื่อ ณัฐกนก เขามีน้องสาว 1 คนคือ “สรัลรักษ์ วิทิตศานต์” ซึ่งก็เล่นแบดมินตันเช่นกัน

วิวเริ่มจับไม้แบดตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เพราะต้องตามพ่อไปสนาม และเริ่มเล่นเพราะมีโรคภูมิแพ้ จึงต้องการให้ร่างกายแข็งแรง จากนั้นจึงเริ่มแข่งขันอย่างจริงจังในระดับเยาวชนกับสโมสรเสนานิคม

เส้นทางความสำเร็จระดับโลกของ “วิว”

เจ้าของแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยติดต่อกัน (2017–2019)
รองแชมป์ World Tour Finals 2021 และคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ BWF
เหรียญเงินในศึกชิงแชมป์โลก 2022 (แพ้ วิคเตอร์ แอ็กเซลเซน)
แชมป์โลก 2023 กลายเป็นชายไทยคนแรกที่คว้าแชมป์โลกแบดมินตันประเภทชายเดี่ยว
และในปี 2024 กลายเป็นคนไทยคนแรกที่เข้าสู่รอบชิงโอลิมปิกประเภทชายเดี่ยว

วิวไม่เพียงแต่เขียนประวัติศาสตร์ให้กับวงการแบดมินตันไทย แต่ยังเติมเต็มความหวังใหม่ให้แฟนกีฬาไทยทั่วประเทศ กับภารกิจคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ในนัดชิงชนะเลิศที่กำลังจะมาถึง