ไม่มีเกียรติยศใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้รับโอกาสสวมเสื้อทีมชาติ สำหรับนักฟุตบอลคนหนึ่ง การได้ติดทีมชาติถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในอาชีพ และแม้ว่าการถูกเรียกติดทีมชาติครั้งเดียวจะถือว่าเป็นความสำเร็จแล้ว แต่การรักษาระดับฟอร์มจนสามารถติดทีมชาติต่อเนื่องยาวนานนั้น เป็นสิ่งที่มีเพียงยอดนักเตะระดับตำนานเท่านั้นที่ทำได้
ในยุคที่การแข่งขันระดับสโมสรมีมากขึ้น และช่วงพักเบรกทีมชาติก็เข้มข้นขึ้น ผู้จัดการทีมมีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้นในการจัดทีมชาติ ดังนั้นนักเตะที่สามารถรักษาระดับความสม่ำเสมอทั้งฟอร์มและความฟิตได้จนติดทีมชาติมากที่สุด จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและความทุ่มเทของพวกเขาอย่างแท้จริง
ต่อไปนี้คือ อันดับนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 10 อันดับแรก พร้อมรายละเอียดตลอดเส้นทางค้าแข้งของแต่ละคน:
Table of Contents
1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ — 217 นัด

ประเทศ: โปรตุเกส
ระยะเวลา: 2003–ปัจจุบัน
แชมป์: ยูโร 2016, เนชั่นส์ลีก 2019
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือเจ้าของสถิตินักเตะที่ลงเล่นให้ทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ด้วยจำนวน 217 นัด เขาไม่เพียงเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเท และแรงขับเคลื่อนที่ไม่รู้จบ
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2003 โรนัลโด้ก็ลงเล่นในทุกทัวร์นาเมนต์สำคัญ และเป็นผู้นำพาทีมคว้าแชมป์ระดับนานาชาติ 2 รายการหลัก แม้จะเข้าสู่วัย 40 แต่เขายังคงมีเป้าหมายในการเล่นร่วมกับลูกชายในอาชีพนักฟุตบอล ซึ่งทำให้ตัวเลขการติดทีมชาตินี้อาจยังไม่หยุดแค่ 217 นัด
2. บาเดอร์ อัล-มูทาวา — 196 นัด

ประเทศ: คูเวต
ระยะเวลา: 2003–2022
แชมป์: กัลฟ์คัพ, WAFF Championship
อัล-มูทาวา คือสัญลักษณ์ของวงการฟุตบอลคูเวตยุคใหม่อย่างแท้จริง แม้จะไม่ได้รับการยอมรับในระดับโลกเหมือนบรรดานักเตะชื่อดังจากยุโรปหรืออเมริกาใต้ แต่เขาคือกำลังสำคัญที่แบกรับความหวังของชาติเอาไว้มาอย่างยาวนาน เขาเริ่มต้นเส้นทางทีมชาติในปี 2003 ขณะมีอายุเพียง 18 ปี และลงเล่นอย่างสม่ำเสมอยาวนานจนถึงวัย 37 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาถึงเกือบสองทศวรรษในตำแหน่งกองหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความคล่องตัว ไหวพริบ และความเฉียบคมในการจบสกอร์
ด้วยผลงานที่โดดเด่น เขาไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในสนาม แต่ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นใหม่ในคูเวต ความภักดี ความสม่ำเสมอ และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขา ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นตัวแทนแห่งความหวังของทีมชาติคูเวตในยุคที่ฟุตบอลกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักในระดับภูมิภาคและนานาชาติ
3. โซ ชิน แอน — 195 นัด

ประเทศ: มาเลเซีย
ระยะเวลา: 1969–1984
แชมป์: ซีเกมส์, เมอร์เดก้าคัพ, คิงส์คัพ
โซ ชิน แอน คือนักฟุตบอลระดับตำนานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้เป็นสัญลักษณ์ของยุคทองแห่งวงการลูกหนังมาเลเซีย เขาได้รับฉายาว่า “เถ้าแก่” อันเป็นคำที่สื่อถึงความน่าเคารพและความเป็นผู้นำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่โดดเด่นของเขาทั้งในสนามและในห้องแต่งตัว
ตลอดช่วงเวลากว่า 15 ปีในการรับใช้ทีมชาติ โซ ชิน แอนได้มีส่วนสำคัญในการพาทีมชาติมาเลเซียคว้าแชมป์ระดับภูมิภาคหลายรายการ ทั้งซีเกมส์ เมอร์เดก้าคัพ และคิงส์คัพ พร้อมกับกลายเป็นกำลังหลักที่ช่วยผลักดันให้มาเลเซียเป็นทีมที่น่าเกรงขามในยุคนั้น
แม้ว่าบางนัดจะไม่ถูกบันทึกโดยฟีฟ่า แต่จำนวนการลงเล่นของเขายังคงมากถึง 195 นัดอย่างเป็นทางการ ทำให้เขายืนอยู่ในกลุ่ม อันดับนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมาก ที่สุดในโลก และชื่อของเขายังคงถูกกล่าวถึงในฐานะแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ให้กับนักเตะรุ่นหลังทั่วทั้งอาเซียนจวบจนปัจจุบัน
4. ลิโอเนล เมสซี่ — 191 นัด

ประเทศ: อาร์เจนตินา
ระยะเวลา: 2005–ปัจจุบัน
แชมป์: ฟุตบอลโลก 2022, โคปา อเมริกา 2021, ฟินาลิสซิมา
เส้นทางของลิโอเนล เมสซี่ในทีมชาติอาร์เจนตินาเริ่มต้นจากความผิดหวังหลายครั้งในรอบชิงชนะเลิศ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลกหรือโคปา อเมริกา จนหลายคนตั้งคำถามว่าเขาจะสามารถพาทีมชาติคว้าแชมป์ได้หรือไม่ แต่ด้วยความมุ่งมั่น ความอดทน และจิตใจที่ไม่เคยยอมแพ้ เมสซี่ได้พลิกบทบาทจากผู้แบกรับความกดดันสู่การเป็น “ราชาแห่งความสำเร็จ” ในช่วงปลายอาชีพ ด้วยการคว้าแชมป์โคปา อเมริกาในปี 2021 และตามด้วยแชมป์โลกในปี 2022 อย่างยิ่งใหญ่
แม้จะประสบความสำเร็จในระดับสโมสรกับบาร์เซโลนาและปารีส แซงต์-แชร์กแมงจนเกินพอ แต่เมสซี่ไม่เคยหันหลังให้กับทีมชาติอาร์เจนตินา ไม่ว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากแค่ไหน เขายังคงสวมเสื้อฟ้าขาวด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นจะนำความสำเร็จมาสู่ชาติบ้านเกิด
ด้วยจำนวนการลงเล่นกว่า 190 นัด เขาได้จารึกชื่อของตัวเองไว้ใน อันดับนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมาก ที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจที่บอกเราว่า “เส้นทางสู่ความสำเร็จอาจไม่ได้ง่าย แต่ถ้าไม่ยอมแพ้ ความฝันจะเป็นจริงได้เสมอ”
5. ลูก้า โมดริช — 184 นัด

ประเทศ: โครเอเชีย
ระยะเวลา: 2006–ปัจจุบัน
แชมป์: รองแชมป์โลก 2018, อันดับ 3 ปี 2022
ลูก้า โมดริช คือมิดฟิลด์อัจฉริยะผู้คว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปี 2018 และเป็นศูนย์กลางของความสำเร็จระดับประวัติศาสตร์ของทีมชาติโครเอเชีย เขาคือผู้นำที่นำทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2018 และตามด้วยการคว้าอันดับ 3 ในปี 2022 ซึ่งถือเป็นยุคทองของวงการลูกหนังโครเอเชียอย่างแท้จริง
สิ่งที่ทำให้โมดริชแตกต่างจากใครไม่ใช่แค่ฝีเท้าอันเหนือชั้นหรือวิสัยทัศน์อันเฉียบคม แต่คือความสง่างามในการเล่น ความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ และจิตวิญญาณแห่งนักสู้ที่ไม่เคยลดระดับความมุ่งมั่นแม้แต่น้อย
แม้อายุจะล่วงเข้าสู่ช่วงปลายของเส้นทางอาชีพ โมดริชยังคงเป็นหัวใจสำคัญของทีมชาติโครเอเชีย ด้วยฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอและความรับผิดชอบที่ไม่เคยลดลง เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในยุโรปยุคใหม่ และด้วยการลงสนามมากกว่า 180 นัด เขาจึงอยู่ในกลุ่ม อันดับนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมาก ที่สุดในยุโรป และยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเตะรุ่นหลังทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
6. อาเหม็ด ฮัสซัน — 184 นัด

ประเทศ: อียิปต์
ระยะเวลา: 1995–2012
แชมป์: แอฟริกัน เนชันส์คัพ 4 สมัย
อาเหม็ด ฮัสซัน คือนักเตะระดับตำนานที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลแอฟริกา เขาคือหัวใจสำคัญของทีมชาติอียิปต์ในยุคทอง และเป็นกำลังหลักที่พาทีมคว้าแชมป์แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ ได้ถึง 4 สมัย ซึ่งเป็นสถิติที่ยังไม่มีใครลบล้างได้ในทวีปนี้
ด้วยบทบาทมิดฟิลด์ตัวหลักที่เปี่ยมด้วยพลัง ความแม่นยำ และความเป็นผู้นำ เขาไม่เพียงแต่มีอิทธิพลในสนาม แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญในห้องแต่งตัว เป็นกัปตันทีมผู้เปี่ยมด้วยวินัย และเป็นตัวแทนแห่งจิตวิญญาณของฟาโรห์ที่แท้จริง
นอกจากความสำเร็จที่จับต้องได้ ฮัสซันยังเป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่ติดทีมชาติมากที่สุดในทวีปแอฟริกา ด้วยการลงสนามให้กับอียิปต์ถึง 184 นัด ซึ่งทำให้เขาอยู่ในระดับแนวหน้าของ อันดับนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมาก ที่สุดในโลก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะจากทั่วทั้งแอฟริกาในทุกยุคทุกสมัย
7. ฮัสซัน อัล-เฮย์ดอส — 183 นัด

ประเทศ: กาตาร์
ระยะเวลา: 2008–2024
แชมป์: เอเชียนคัพ 2019, 2023
ฮัสซัน อัล-เฮย์ดอส คือนักฟุตบอลผู้เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของวงการลูกหนังกาตาร์ เขาเริ่มต้นรับใช้ทีมชาติในช่วงที่กาตาร์ยังไม่เป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลก แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถ เขากลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมชาติในทุกยุคทุกสมัย และก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมในฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ในฐานะผู้นำ เขาพาทีมคว้าแชมป์เอเชียนคัพได้ถึง 2 สมัย สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวกาตาร์ทั้งประเทศ พร้อมทั้งยกระดับภาพลักษณ์ของทีมชาติให้เป็นหนึ่งในมหาอำนาจของฟุตบอลเอเชียสมัยใหม่
การอำลาทีมชาติของอัล-เฮย์ดอสในปี 2024 จึงไม่ใช่เพียงแค่การปิดฉากของนักเตะคนหนึ่ง แต่เป็นการปิดตำนานของยุคแห่งการสร้างชาติผ่านฟุตบอล และตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าเขาคือนักเตะที่อยู่ใน อันดับนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมาก ที่สุดของกาตาร์ ด้วยจำนวนการลงสนามที่มากถึง 183 นัด เขาคือแบบอย่างแห่งความทุ่มเท ความภักดี และจิตวิญญาณนักสู้ที่ไม่อาจลืมเลือนในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลกาตาร์
8. อาเหม็ด มูบารัค — 183 นัด

ประเทศ: โอมาน
ระยะเวลา: 2003–2019
แชมป์: กัลฟ์คัพ 2 สมัย
อาเหม็ด มูบารัค หรือที่แฟนบอลรู้จักกันดีในชื่อ “คานู” คือมิดฟิลด์เชิงรับผู้เป็นเสาหลักของทีมชาติโอมานมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เขาคือบุคคลที่อุทิศทั้งหัวใจและร่างกายให้กับฟุตบอลของประเทศ แม้จะไม่ได้โลดแล่นในเวทีระดับโลกอย่างฟุตบอลโลกหรือเอเชียนคัพ แต่เขากลับยืนหยัดเป็นกำลังหลักที่ทำให้โอมานมีที่ยืนในเวทีระดับภูมิภาค
ในตลอดระยะเวลา 16 ปีที่รับใช้ชาติ คานูลงเล่นให้กับทีมชาติโอมานถึง 183 นัด พาทีมคว้าแชมป์กัลฟ์คัพได้ถึง 2 สมัย และยังคงได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำที่ไม่เคยทิ้งทีม แม้ในวันที่สถานการณ์ยากลำบาก
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในตัวเขาคือความทุ่มเทโดยไม่ต้องการชื่อเสียง เขาคือนักเตะที่ทำหน้าที่ด้วยความเงียบสงบ แต่มีอิทธิพลต่อเกมและต่อหัวใจของแฟนบอลอย่างลึกซึ้ง และจากจำนวนการลงเล่นระดับชาติที่มากถึง 183 นัด ทำให้เขาเป็นหนึ่งใน อันดับนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมาก ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโอมาน และเป็นแรงบันดาลใจที่แท้จริงสำหรับคนรุ่นใหม่ในวงการฟุตบอลของตะวันออกกลาง
9. อันเดรส กวาร์ดาโด — 180 นัด

ประเทศ: เม็กซิโก
ระยะเวลา: 2005–2024
แชมป์: คอนคาเคฟ โกลด์คัพ 3 สมัย
อันเดรส กวาร์ดาโด คือหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทีมชาติเม็กซิโกในยุคปัจจุบัน เขาเริ่มต้นเส้นทางกับ “เอล ตรี” ตั้งแต่อายุยังน้อย และสามารถรักษาฟอร์มการเล่นในระดับสูงได้อย่างยาวนาน โดยลงแข่งขันในฟุตบอลโลกถึง 5 สมัย ซึ่งถือเป็นเกียรติที่มีเพียงไม่กี่คนในโลกฟุตบอลจะทำได้
กวาร์ดาโดไม่เพียงเป็นนักเตะฝีเท้าดีในตำแหน่งมิดฟิลด์ แต่ยังเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ ทั้งในเรื่องของความสม่ำเสมอ วินัย และความเป็นมืออาชีพ เขาเป็นผู้ที่แบกรับความหวังของชาติ และพาทีมชาติเม็กซิโกประสบความสำเร็จในระดับทวีป ด้วยการคว้าแชมป์โกลด์คัพถึง 3 สมัย
ความมุ่งมั่นและความรักที่เขามีต่อธงชาติ ทำให้กวาร์ดาโดกลายเป็นแบบอย่างที่ชัดเจนสำหรับนักเตะรุ่นใหม่ของเม็กซิโก และด้วยจำนวนการติดทีมชาติมากถึง 180 นัด เขาจึงอยู่ในกลุ่ม อันดับนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมาก ที่สุดในโลก พร้อมทั้งจารึกชื่อไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลละตินอเมริกาอย่างยิ่งใหญ่
10. เซร์คิโอ รามอส — 180 นัด

ประเทศ: สเปน
ระยะเวลา: 2005–2021
แชมป์: ฟุตบอลโลก 2010, ยูโร 2008 และ 2012
เซร์คิโอ รามอส อาจไม่ใช่นักเตะที่เล่นได้สวยงามหรือมีเทคนิคละเมียดละไมเหมือนบางคน แต่เขาคือบุคคลที่ทำให้ทีมชาติสเปนในยุคทองแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน มั่นใจ และไม่ยอมแพ้ เขาคือหัวใจของแนวรับที่นำทัพ “ลา โรฆา” คว้าแชมป์ยุโรป 2 สมัย และแชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัยในช่วงเวลาอันใกล้เคียงกัน — ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอลสเปน
รามอสไม่ได้มีแค่พละกำลังหรือทักษะการเข้าสกัดที่เฉียบขาดเท่านั้น แต่เขายังมีความเป็นผู้นำที่เปี่ยมไปด้วยพลังและจิตวิญญาณนักสู้ เขาคือคนที่กล้ารับผิดชอบในช่วงเวลาสำคัญ คนที่ยิงจุดโทษในเกมชี้เป็นชี้ตายโดยไม่หวั่นเกรง และเป็นแบบอย่างของการกล้าตัดสินใจเพื่อชัยชนะ
ด้วยจำนวนการลงเล่นถึง 180 นัด เขาจึงเป็นหนึ่งในกองหลังที่อยู่ใน อันดับนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมาก ที่สุดในโลก และกลายเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ ความภักดี และความเป็นมืออาชีพที่แฟนบอลทั่วโลกต่างให้การยอมรับ ไม่ว่าจะรักหรือเกลียด ชื่อของ “เซร์คิโอ รามอส” จะยังคงอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของฟุตบอลสเปนอย่างไม่มีวันลบเลือน
สรุปนักเตะที่ติดทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์
อันดับ | ชื่อ | ประเทศ | จำนวนติดทีมชาติ (นัด) | ช่วงเวลาการเล่น | แชมป์สำคัญ |
---|---|---|---|---|---|
1 | คริสเตียโน่ โรนัลโด้ | โปรตุเกส | 217 | 2003–ปัจจุบัน | ยูโร 2016, เนชั่นส์ลีก |
2 | บาเดอร์ อัล-มูทาวา | คูเวต | 196 | 2003–2022 | กัลฟ์คัพ, WAFF |
3 | โซ ชิน แอน | มาเลเซีย | 195 | 1969–1984 | ซีเกมส์, คิงส์คัพ, เมอร์เดก้า |
4 | ลิโอเนล เมสซี่ | อาร์เจนตินา | 191 | 2005–ปัจจุบัน | ฟุตบอลโลก, โคปาอเมริกา, ฟินาลิสซิมา |
5 | ลูก้า โมดริช | โครเอเชีย | 184 | 2006–ปัจจุบัน | รองแชมป์โลก, อันดับ 3 |
6 | อาเหม็ด ฮัสซัน | อียิปต์ | 184 | 1995–2012 | แอฟริกันคัพ 4 สมัย |
7 | ฮัสซัน อัล-เฮย์ดอส | กาตาร์ | 183 | 2008–2024 | เอเชียนคัพ 2 สมัย, กัลฟ์คัพ |
8 | อาเหม็ด มูบารัค | โอมาน | 183 | 2003–2019 | กัลฟ์คัพ 2 สมัย |
9 | อันเดรส กวาร์ดาโด | เม็กซิโก | 180 | 2005–2024 | โกลด์คัพ 3 สมัย |
10 | เซร์คิโอ รามอส | สเปน | 180 | 2005–2021 | ฟุตบอลโลก, ยูโร 2 สมัย |
อ่านเพิ่มเติม:-
- 10 นักเตะไทยที่ได้รับรางวัลมากที่สุดแห่งทศวรรษ (2015–2025)
- 10 นักวอลเลย์บอลที่มีเสน่ห์ดึงดูดมากที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1.นักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมากที่สุดในโลกคือใคร?
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 217 นัด (ณ ปี 2025) ในการเล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกส
2.นักเตะเอเชียคนใดติดทีมชาติมากที่สุด?
บาเดอร์ อัล-มูทาวา จากคูเวต คือนักเตะเอเชียที่ติดทีมชาติมากที่สุด ด้วยจำนวน 196 นัด
3.นักฟุตบอลจากอาเซียนที่ติดทีมชาติมากที่สุดคือใคร?
ซ ชิน แอน จากมาเลเซีย คือนักเตะอาเซียนที่มีสถิติการติดทีมชาติมากที่สุด โดยลงเล่น 195 นัดอย่างเป็นทางการ
4.มีนักเตะคนใดติดทีมชาติเกิน 200 นัดบ้าง?
มีเพียง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คนเดียวในปัจจุบันที่ติดทีมชาติเกิน 200 นัด
5.การติดทีมชาติบ่อยสะท้อนถึงอะไรในตัวนักเตะ?
การติดทีมชาติบ่อยแสดงถึง ความสม่ำเสมอ, ความฟิต, ฝีเท้าในระดับสูง และความภักดี ที่ได้รับการยอมรับจากผู้จัดการทีมชาติต่อเนื่องตลอดช่วงเวลายาวนาน