10 คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย ปี 2025

คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย

ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งปีทองของวงการมวยไทย เมื่อแมตช์สุดเดือดหลายคู่กลายเป็นตำนานหน้าใหม่ที่จารึกลงในประวัติศาสตร์ แม้จะมีแชมป์โลกหลายคน แต่สิ่งที่ทำให้แฟนมวยตื่นเต้นมากที่สุดกลับไม่ใช่แค่เข็มขัด… แต่คือ “ศึกของศัตรู” ที่เจอกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมกับแรงกดดันทางจิตวิทยา เสียงโห่ร้องของผู้ชม และเดิมพันที่เกินกว่าชัยชนะธรรมดา

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย ปี 2025 ที่ไม่ใช่แค่ดวลกันบนเวที… แต่ดวลกันในใจแฟนมวยทั่วโลก

1. Rodtang Jitmuangnon vs. Jonathan Haggerty

คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย
  • ✅ เจอกันครั้งแรกในปี 2019
  • ✅ ล่าสุดในปี 2025 ณ ONE 165
  • ✅ Rodtang ชนะ 2 / Haggerty ชนะ 1

การปะทะระหว่าง Rodtang Jitmuangnon และ Jonathan Haggerty ถือเป็นหนึ่งในแมตช์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการมวยไทยยุคใหม่ เป็นการเผชิญหน้าระหว่างนักชกขวัญใจชาวไทยผู้มีสไตล์ดุดัน ดันไม่ถอย ปล่อยหมัด–ศอกแบบไม่มีพัก กับนักชกจากอังกฤษที่มีทักษะระดับสูง ความเร็วจัด และมีความแม่นยำแบบนักมวยยุโรปยุคใหม่ที่ฝึกฝนด้วยระบบทันสมัย

แม้ในสองไฟต์แรก Rodtang จะสามารถเอาชนะได้แบบเด็ดขาด ทั้งด้วยพลังบุกและความอึดอันเป็นเอกลักษณ์ แต่สิ่งที่ทำให้ Rivalry นี้น่าจดจำยิ่งกว่าเดิม คือ ไฟต์ที่ 3 ในปี 2025 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้บรรยากาศสุดเข้มข้นในรายการ ONE Championship ที่มีผู้ชมทั่วโลกรอชม — และในครั้งนี้ Haggerty สามารถล้างแค้นได้สำเร็จ ด้วยเกมชกที่เฉียบขาด ตัดจังหวะการบุกของ Rodtang ได้หลายครั้ง และคว้าชัยชนะไปด้วยคะแนนแบบไม่เอกฉันท์

แมตช์นี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การวัดฝีมือเท่านั้น แต่มันคือภาพสะท้อนของ “มวยไทยดั้งเดิม” ที่พัฒนาจากรากวัฒนธรรมไทย กับ “มวยต่างชาติที่ศึกษาและยกระดับมาจนถึงระดับแชมป์” ทั้ง Rodtang และ Haggerty ต่างมีแฟนคลับจำนวนมากจากทั่วโลก และทุกการเจอกันของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพ ปนเปกับแรงกระแทกจากหมัดและศอกที่แลกกันแบบสุดทาง

Rivalry คู่นี้จึงถูกยกให้เป็นหนึ่งใน คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย ของยุคปัจจุบัน และแสดงให้เห็นว่าวิชามวยไทยได้ขยายตัวอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ไปไกลถึงระดับโลก และยังคงพัฒนาไปอย่างไม่มีขีดจำกัด

2. Superlek Kiatmuu9 vs. Jonathan Haggerty

คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย
  • ✅ ONE 168: Superlek ชนะน็อกใน 49 วินาที
  • ✅ ศอกเดียวจบ หนึ่งใน KO แห่งปี

แม้จะเจอกันครั้งแรกในปี 2025 แต่ก็เพียงพอที่จะสร้างชื่อให้กลายเป็นไฟต์ในตำนาน Superlek ใช้ศอกซ้ายจบเกมในเวลาไม่ถึง 1 นาที นำมาซึ่งกระแส “เรียกร้องรีแมตช์” จากแฟน ๆ ทั่วโลก ความเข้มข้นของเทคนิคและความเร็วในการปิดเกมทำให้คู่นี้ถูกพูดถึงว่าอาจเป็น Rivalry ยุคใหม่ที่น่าจับตามองที่สุดใน ONE

3. Tawanchai PK.Saenchai vs. Superbon Singha Mawynn

คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย
  • ✅ มวยไทย vs คิกบ็อกซิ่ง
  • ✅ Tawanchai ชนะคะแนน (ONE 170)

การเจอกันระหว่างสองซูเปอร์สตาร์ของไทยในรุ่นเดียวกัน กลายเป็นหนึ่งในไฟต์ที่ทรงพลังที่สุดของปี 2025 — เมื่อ Tawanchai PK.Saenchai แชมป์โลก ONE มวยไทย ต้องพบกับ Superbon Singha Mawynn อดีตแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการเตะอันหนักหน่วงและการเตรียมตัวที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งของวงการ

แมตช์นี้ไม่ใช่แค่การชิงเข็มขัด แต่เป็น ศึก “แชมป์ชนแชมป์” ที่มีเกียรติยศของมวยไทยเป็นเดิมพัน ทั้งสองมีแฟนคลับมากมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดย Tawanchai มีจุดเด่นที่สปีดความเร็วสูง จังหวะออกอาวุธแม่นยำ และควบคุมเกมได้อย่างเหนือชั้น ขณะที่ Superbon ใช้จังหวะถีบ ลูกเตะหนัก และพลังกายอันแข็งแกร่งเพื่อบดขยี้คู่ต่อสู้

ไฟต์ของพวกเขาคือภาพสะท้อนของ “สองยุทธวิธีที่ต่างกันแต่มีประสิทธิภาพเท่าเทียม” — ความเร็วกับพลัง ความฉลาดกับความแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้แฟนมวยต่างตั้งตารอคอย และทุกวินาทีของเกมคือบทพิสูจน์ว่าใครคือนักชกที่สมบูรณ์แบบที่สุดในรุ่น

การแข่งขันของทั้งคู่ไม่ได้แค่สร้างความตื่นเต้น แต่ยังแฝงด้วย ความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้เห็นนักชกสัญชาติเดียวกันก้าวขึ้นมาสร้างประวัติศาสตร์ในเวทีระดับโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่ศึก Tawanchai vs. Superbon จะถูกยกให้เป็นหนึ่งใน คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย และเป็นหนึ่งในศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี

4. Kongthoranee Sor.Sommai vs. Nong-O Hama

คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย
  • ✅ ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่น Bantamweight
  • ✅ ศึก “ดาวรุ่งผู้ห้าวหาญ vs ตำนานผู้กลับมา”

การเผชิญหน้าระหว่างสองนักชกต่างยุคต่างสไตล์ กลายเป็นแมตช์ที่แฟนมวยเฝ้ารอมากที่สุดในเวทีระดับโลก โดยเฉพาะเมื่ออดีตแชมป์ผู้มากด้วยประสบการณ์อย่าง Nong-O Hama ต้องปะทะกับนักชุดใหม่ไฟแรงอย่าง Kongthoranee Sor.Sommai แชมป์ผู้ยืนหนึ่งในรุ่น Bantamweight แห่งยุค

ศึกครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่การแข่งขันธรรมดา แต่มันคือการวัดกันระหว่าง “ศาสตร์เก่า” กับ “พลังใหม่” — ความเก๋าเกม, การอ่านคู่ต่อสู้, และการตั้งรับระดับตำนานของ Nong-O ปะทะกับแรงบันดาลใจอันแรงกล้า, ความเร็ว, และจังหวะบุกของ Kongthoranee ที่หิวกระหายต่อชัยชนะอย่างที่สุด

แม้จะเป็นไฟต์ที่เดิมพันด้วยเข็มขัดแชมป์ แต่ความเคารพที่ทั้งสองมีให้กันก็มากพอ ๆ กับความตั้งใจจะเอาชนะ ไม่มีฝ่ายใดครองความได้เปรียบตลอดทั้งเกม เพราะผลัดกันรุก ผลัดกันรับอย่างสมดุล ทุกยกคือบทเรียนที่สะท้อนว่า ศิลปะแห่งแปดอาวุธไม่ใช่แค่เรื่องของพลัง แต่คือเกมจิตวิทยาและความกล้า

ด้วยความสูสี และความเป็น “สงครามระหว่างรุ่น” ที่ไม่เคยจืดจาง Rivalry ระหว่าง Nong-O และ Kongthoranee จึงถูกยกให้เป็นหนึ่งใน คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย ยุคปัจจุบัน และถือเป็นแบบอย่างที่แสดงให้เห็นว่า มวยไทยสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างสง่างาม

5. Worapon Lukjaoporongtom vs. Şener Şen

คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย
  • ✅ สู้กันมาแล้ว 2 ไฟต์ใน ONE Friday Fights
  • ✅ ผลัดกันแพ้ชนะ

Rivalry ระหว่างดาวรุ่งจากไทยและนักชกต่างชาติที่มาแรงจากยุโรป กลายเป็นหนึ่งในศึกที่แฟนมวยรุ่นใหม่ให้ความสนใจมากที่สุดในปี 2025 การเผชิญหน้าระหว่าง Worapon Lukjaoporongtom นักชกชาวไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำและจังหวะสวนกลับที่เฉียบขาด กับ Şener Şen นักชกสายบู๊จากตุรกีที่เดินหน้าท้าชนตลอด 3 ยก กลายเป็นแมตช์ที่สร้างกระแสในเวที ONE Friday Fights อย่างแท้จริง

สิ่งที่ทำให้ศึกนี้น่าจดจำคือ “ไฟต์ที่สอง” ซึ่งเต็มไปด้วยเลือดและความไม่ยอมแพ้ ทั้งสองคนต่างได้รับบาดแผลจากการปะทะที่หนักหน่วง แต่ไม่มีใครยอมให้กรรมการสั่งยุติการชก พวกเขาสู้ต่อด้วยหัวใจ ไม่ใช่แค่เพื่อชัยชนะ แต่เพื่อศักดิ์ศรีของสไตล์มวยของตัวเอง

Worapon สื่อถึงความประณีตและกลยุทธ์ในแบบมวยไทยดั้งเดิม ส่วน Şener Şen คือภาพแทนของนักสู้ต่างชาติยุคใหม่ที่เคารพศิลปะแห่งแปดอาวุธ Rivalry นี้จึงเป็นมากกว่าแค่การดวลกันของสองนักมวย — มันคือการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การต่อสู้ของ “จังหวะและพลัง” ที่ทำให้แฟนมวยยอมรับทั้งสองฝั่ง

ในขณะที่โลกกำลังเฝ้ารอไฟต์ที่ 3 (The Trilogy) อย่างใจจดใจจ่อ การปะทะของคู่นี้ได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความมันในมวยไทยยุคใหม่ และอาจถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งใน “คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย รุ่นใหม่” ที่ผลักดันกีฬานี้ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ทั่วโลก

6. Stamp Fairtex vs. Janet Todd

คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย
  • ✅ พบกันในทั้งมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง
  • ✅ ผลัดกันแพ้ชนะ

คู่ปรับหญิงระดับโลกที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วง 5 ปีหลัง ต้องยกให้การเจอกันระหว่าง Stamp Fairtex ขวัญใจแฟนมวยชาวไทย กับ Janet Todd นักมวยหญิงฝีมือฉกาจจากสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่เจอกันมาแล้วหลายครั้งภายใต้กติกาทั้งมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง โดยผลการแข่งขันมักออกมาสูสี และผลัดกันแพ้–ชนะในแบบที่ไม่มีใครยอมใคร

สิ่งที่ทำให้ Rivalry นี้โดดเด่นไม่ใช่แค่ฝีมือที่ใกล้เคียงกัน แต่คือ พัฒนาการของทั้งสองคนที่เติบโตไปพร้อมกันในเวทีระดับโลก Stamp ที่เคยเป็นแชมป์โลกหญิงคนแรกของ ONE ในหลายกติกา ได้รับความนิยมล้นหลามจากคาแรกเตอร์ที่สดใสและสไตล์การชกที่ดุดัน ขณะที่ Janet Todd คือนักมวยหญิงที่ขึ้นชื่อเรื่องการฝึกฝนวินัยสูง ต่อยแม่นยำ เตะรวดเร็ว และมีไอคิวมวยที่เฉียบคม

การแข่งขันระหว่างพวกเธอไม่เพียงสร้างความประทับใจในเวที ONE แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของ “มวยหญิงคุณภาพระดับโลก” ที่สามารถสร้างแมตช์ระดับตำนานได้ไม่แพ้ผู้ชาย จึงไม่แปลกที่ศึก Stamp vs. Todd จะถูกยกให้เป็นหนึ่งใน คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทยหญิง อย่างแท้จริง และคาดว่าเราจะได้เห็นการรีแมตช์ที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งในช่วงปลายปี 2025 ที่กำลังจะมาถึง

7. Lamnamoonlek Tded99 vs. Samingdet Nor.Anuwatgym

คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย
  • ✅ ศึกแห่งลุมพินีที่ไม่มีใครอยากพลาด
  • ✅ แลกกันทุกยก ไม่มีคำว่าถอย

คู่นี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเวทีมวยไทยแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในรายการ ONE Lumpinee ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่แฟนมวยทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ การปะทะกันระหว่าง Lamnamoonlek Tded99 นักชกสายเทคนิคที่ขึ้นชื่อเรื่องการควบคุมระยะ วางจังหวะ และตีโต้กลับอย่างชาญฉลาด กับ Samingdet Nor.Anuwatgym นักชกบู๊ดุดันที่เดินหน้าใส่ไม่ยั้ง สร้างบรรยากาศสุดมันทุกครั้งที่ทั้งสองเผชิญหน้า

จุดเด่นของศึกนี้อยู่ที่การปะทะของสอง “ขั้วตรงข้าม” ของมวยไทยยุคใหม่ – ฝั่งหนึ่งคือศาสตร์แห่งความแม่นยำ อีกฝั่งคือพลังแห่งความกล้า ไม่ถอยไม่หลบ ไฟต์ที่พวกเขาเจอกันไม่เคยจืดจาง มักจะมาพร้อมกับเสียงปรบมือทั้งสนาม เวทีที่ลุกเป็นไฟ และจังหวะตบศอกแลกกันที่ทำให้คนดูแทบลืมหายใจ

Rivalry ระหว่าง Lamnamoonlek กับ Samingdet กลายเป็น ตัวแทนของความหลากหลายทางสไตล์ในมวยไทยยุค 2025 และยังเป็นหนึ่งในคู่ที่สร้างความนิยมให้กับศึก ONE Lumpinee อย่างแท้จริง ด้วยการโชว์ให้โลกเห็นว่า มวยไทยยังมีชีวิต มีความงดงาม และยังคงพัฒนาอยู่บนรากฐานของความเป็นไทยอย่างภาคภูมิ

8. Changpuek Kiatsongrit vs. Rick Roufus

แม้เป็นไฟต์ในอดีต แต่ยังมีผลถึงปัจจุบัน

  • ✅ การเผชิญหน้าข้ามสไตล์ปี 1988
  • ✅ จุดเปลี่ยนสำคัญของมวยไทยในเวทีโลก

ไฟต์นี้คือรากฐานของ “Rivalries ข้ามสายพันธุ์” ที่แท้จริง ระหว่าง Changpuek Kiatsongrit นักมวยไทยสายแข็งที่ใช้เทคนิคครบเครื่องของศิลปะแห่งแปดอาวุธ กับ Rick Roufus ซูเปอร์สตาร์คิกบ็อกซิ่งจากสหรัฐอเมริกาที่ไม่เคยเผชิญกับการเตะตัดขามาก่อนในชีวิต

เมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากันในปี 1988 โลกตะวันตกยังมองมวยไทยเป็นเพียงศิลปะการต่อสู้พื้นบ้าน ไฟต์นี้จึงกลายเป็นจุดพลิกผัน — Changpuek ใช้ลูกเตะตัดขาเล่นงานจน Roufus ไม่สามารถยืนไหวและต้องพ่ายแพ้ แม้ไฟต์นี้จะผ่านมาแล้วหลายทศวรรษ แต่ ยังคงถูกอ้างอิงถึงในปี 2025 เสมอในฐานะ “ไฟต์แห่งการเปิดประตู” ให้กับมวยไทยสู่สายตาระดับโลก

จากจุดนั้น ศิลปะมวยไทยเริ่มได้รับความสนใจอย่างจริงจังในวงการ MMA, คิกบ็อกซิ่ง และกีฬา Combat ทั่วโลก กลายเป็นต้นแบบให้หลายไฟต์ในยุคปัจจุบัน และเป็นหนึ่งใน คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทยระหว่างข้ามวัฒนธรรม ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของมวยไทยไปตลอดกาล

9. Sakmongkol Sithchuchok vs. Jongsanan Fairtex

  • ✅ “The Elbow Fight” ที่ไม่มีใครลืม
  • ✅ เลือดสาดทุกยก ศอกแลกศอก

ไฟต์นี้ถูกกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งใน “คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทยยุค 90s” ที่ไม่มีใครลืมได้ลง ความรุนแรงและความดุเดือดของการต่อสู้ระหว่าง Sakmongkol Sithchuchok และ Jongsanan Fairtex กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของคำว่า “ไฟต์มันส์ระดับตำนาน” ที่ยังคงมีอิทธิพลในยุคปัจจุบัน

พวกเขาไม่ได้เพียงแลกศอกกันแบบไม่ลดละ แต่ยังแสดงถึงหัวจิตหัวใจของนักชกไทยที่พร้อมสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย แม้จะเลือดอาบหน้า ทั้งสองก็ยังไม่มีใครยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว ความกล้าหาญ ความอดทน และความเคารพต่อศิลปะแห่งแปดอาวุธที่พวกเขาแสดงออกมา กลายเป็นแบบอย่างให้กับนักมวยรุ่นใหม่ทั่วโลก

และแม้เวลาจะผ่านไปกว่า 20 ปี แต่ทุกครั้งที่มีการจัดอันดับไฟต์ในตำนานของมวยไทย ไฟต์นี้จะยังคงอยู่ในลิสต์เสมอ เพราะมันคือการต่อสู้ที่ ไม่ใช่แค่เพื่อชัยชนะ แต่เพื่อศักดิ์ศรีของนักมวยไทยอย่างแท้จริง

10. Pakorn P.K.Saenchai vs. Pornsanae Sitmonchai

  • ✅ “ไฟต์แห่งปี 2012” ที่ยังมีคนพูดถึงในปี 2025
  • ✅ เดินแลกกันแบบไม่มีกลัว

Pakorn นักชกที่มีทักษะรอบด้านทั้งการตั้งระยะ เตะ เข่า ศอก และการตั้งเกมอย่างชาญฉลาด ต้องมาเจอกับ Pornsanae นักมวยบู๊ตัวจริงเสียงจริงจากค่าย Sitmonchai ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเดินลุยแบบไม่มีถอย แมตช์ของทั้งสองเต็มไปด้วยจังหวะแลกอาวุธอย่างไม่ลดละ โดยเฉพาะจังหวะกลางยกที่ทั้งคู่ใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ชนิดที่คนดูในสนามลุกขึ้นยืนทั้งแถว

แม้จะเป็นไฟต์ในปี 2012 แต่ยังคงถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในปี 2025 ว่าเป็นหนึ่งในไฟต์ที่มีความเข้มข้นและเร้าใจที่สุดของยุค Rivalry นี้จึงไม่ได้เป็นแค่ศึกแห่งชัยชนะ แต่กลายเป็น ต้นแบบของไฟต์มวยไทยที่แท้จริง ที่แสดงออกถึงพลัง ศักดิ์ศรี และหัวใจของนักสู้ไทยอย่างหมดจด

อ่านเพิ่มเติม:-

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1.อะไรทำให้คู่ Rodtang vs. Haggerty ถูกยกให้เป็นหนึ่งในคู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการมวยไทย?

เพราะทั้งคู่มีสไตล์ที่แตกต่างอย่างชัดเจน — Rodtang เน้นความดุดัน ขณะที่ Haggerty ใช้เทคนิคและสปีด นอกจากนี้พวกเขาเจอกันถึง 3 ครั้ง และผลัดกันแพ้–ชนะในแมตช์ที่ทั่วโลกจับตา จึงกลายเป็นศึกแห่งยุคอย่างแท้จริง

2.การเจอกันของ Tawanchai กับ Superbon สำคัญต่อวงการมวยไทยอย่างไร?

เพราะนี่คือแมตช์ “แชมป์ชนแชมป์” ที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของแฟนมวยไทย ทั้งคู่เป็นคนไทยที่ขึ้นสู้กันในระดับโลก แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของนักมวยไทยรุ่นใหม่ที่ไปไกลกว่าระดับประเทศ

3.คู่ปรับในวงการมวยไทยมักสร้างผลกระทบอะไรต่อวงการ?

Rivalries ที่เข้มข้นมักสร้างแรงดึงดูดมหาศาลให้กับผู้ชมทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้เวทีมวยได้รับความนิยมสูงขึ้น สร้างนักชกระดับตำนาน และช่วยยกระดับมวยไทยให้กลายเป็นกีฬาระดับโลกอย่างต่อเนื่อง

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top