10 กองหน้าไทยที่ยิงประตูในนามทีมชาติมากที่สุด

กองหน้าไทย

รวมรายชื่อ 10 กองหน้าไทยที่ยิงประตูในนามทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ พร้อมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลงาน สไตล์การเล่น และบทบาทที่พวกเขามีต่อวงการฟุตบอลไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน กองหน้าไทยเหล่านี้คือตำนานที่สร้างแรงบันดาลใจให้แฟนบอลทั่วประเทศ

Table of Contents

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คือหนึ่งในกองหน้าไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ด้วยสถิติการยิงประตูสูงสุดในระดับนานาชาติและบทบาทผู้นำทั้งในสนามและนอกสนาม เขาเป็นนักเตะที่ฝากผลงานระดับตำนานไว้ทั้งในเวทีระดับประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเตะรุ่นใหม่มาอย่างยาวนาน

1. เกียรติศักดิ์ “ซิโก้” เสนาเมือง – 71 ประตู

กองหน้าไทย
  • ลงเล่น: 134 นัด (1993–2007)
  • แชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ: แชมป์ 3 สมัย (1996, 2000, 2002)
  • เหรียญทองซีเกมส์: เหรียญทองหลายเหรียญในช่วงทศวรรษ 1990
  • เคยเล่นฟุตบอลอาชีพที่อังกฤษ (ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์) และสิงคโปร์

ถ้าจะพูดถึง กองหน้า ไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ชื่อของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คือชื่อแรกที่แฟนบอลไทยนึกถึงเสมอ เขาไม่ใช่แค่ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติไทย ด้วยจำนวน 71 ประตูจาก 134 นัด แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำทั้งในสนามและนอกสนาม เกียรติศักดิ์เคยไปค้าแข้งในต่างแดน ทั้งที่อังกฤษกับฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ และที่เวียดนามกับฮองอันห์ยาลาย ซึ่งเขากลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลท้องถิ่นอย่างล้นหลาม

ในระดับทีมชาติ เขาคือหัวใจของทีมยุคทอง พาทีมคว้าแชมป์อาเซียนถึง 3 สมัย และเหรียญทองซีเกมส์หลายรายการ สไตล์การเล่นของเขาเน้นความเร็ว ความแม่นยำ และความเข้าใจเกมอย่างลึกซึ้ง เมื่อแขวนสตั๊ด เขายังกลับมาสร้างชื่อในฐานะโค้ช พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ AFF อีก 2 สมัยในปี 2014 และ 2016 และผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเอเชียได้สำเร็จ

ซิโก้จึงไม่ใช่แค่กองหน้าไทยที่ยิงประตูมากที่สุด แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจของนักฟุตบอลรุ่นใหม่ และเป็นตำนานที่ทั้งแฟนบอลและวงการฟุตบอลไทยจะไม่มีวันลืม

2. ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน – 70 ประตู

กองหน้าไทย
  • ลงเล่น: 100 นัด (1981–1997)
  • เคยเล่นให้กับสโมสร Lucky-Goldstar FC (ปัจจุบันคือ FC Seoul) ในเคลีก ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะไทยไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศในขณะนั้น
  • ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมฟุตบอลไทยหลายครั้ง

ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน คือหนึ่งในตำนานของวงการลูกหนังไทย ผู้ที่กล้าก้าวข้ามขีดจำกัดของยุคสมัย และเปิดเส้นทางใหม่ให้ผู้เล่นไทยได้พิสูจน์ตัวเองในระดับนานาชาติ ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ พละกำลังที่แข็งแกร่ง และสัญชาตญาณการจบสกอร์อันแม่นยำ เขากลายเป็นนักเตะไทยคนแรกที่ได้ลงเล่นในเคลีก เกาหลีใต้ กับสโมสร Lucky-Goldstar FC (ซึ่งปัจจุบันคือ FC Seoul) และสามารถสร้างชื่อเสียงอย่างน่าภาคภูมิใจในต่างแดน

ในระดับทีมชาติ เขาทำไปถึง 70 ประตูจาก 100 นัด ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมและยืนอยู่แถวหน้าของประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย เขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจากหลายสถาบัน และเป็นบุคคลที่จุดประกายแรงบันดาลใจให้กับผู้เล่นรุ่นใหม่ กล้าที่จะก้าวออกไปเผชิญหน้ากับความท้าทายในระดับอาชีพทั่วเอเชียและโลก

3. ธีรศิลป์ แดงดา – 65 ประตู (ยังเล่นอยู่)

กองหน้าไทย
  • ลงเล่น: มากกว่า 126 นัด (2007–ปัจจุบัน)
  • เคยเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระยะสั้นๆ (ช่วงปรีซีซั่น)
  • เคยเล่นให้กับ UD Almería ในลาลีกา สเปน
  • เคยเล่นในญี่ปุ่น (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา)

ธีรศิลป์ แดงดา คือหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลยุคใหม่รู้สึกผูกพันและยกย่องอย่างมาก ด้วยสไตล์การเล่นที่ลื่นไหลและเต็มไปด้วยความเข้าใจเกม เขาเป็นผู้เล่นที่ใช้สมองมากกว่าพละกำลัง มีความฉลาดในการหาพื้นที่ เคลื่อนที่แบบมีชั้นเชิง และจบสกอร์ได้อย่างนิ่งเฉียบคม คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นแนวรุกที่สมบูรณ์แบบในมุมมองด้านเทคนิคและแท็คติก

ธีรศิลป์ยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะไทยคนแรกที่ได้ลงสนามในศึกลาลีกา สเปน กับสโมสร UD Almería รวมถึงเคยไปค้าแข้งในเจลีก ญี่ปุ่น กับ ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสูง จุดแข็งของเขาไม่ใช่การเล่นที่หวือหวา แต่เป็นความนิ่ง สุขุม และการตัดสินใจที่แม่นยำในช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งทำให้ทุกประตูของเขากลายเป็นประตูที่มีน้ำหนักและเปี่ยมไปด้วยความหมายเสมอ

4. ศรายุทธ ชัยคำดี – 29 ประตู

กองหน้าไทย
  • ลงเล่น: 73 นัด (2001–2011)
  • รองแชมป์เอเอฟเอฟ (2007)
  • ผู้ทำประตูสูงสุดในไทยลีกอย่างต่อเนื่อง

โจ้ห้าหลา” คือฉายาสุดคลาสสิกของ ศรายุทธ ชัยคำดี ที่สะท้อนถึงสไตล์การเล่นได้อย่างตรงตัว เขาคือกองหน้าไทยที่มีจุดเด่นในการจบสกอร์ระยะเผาขน โดยเฉพาะในบริเวณกรอบเขตโทษ เขาไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะเลี้ยงบอลหรือความเร็วแบบกองหน้าคนอื่น แต่ใช้ “สัญชาตญาณนักล่า” ในพื้นที่แคบได้อย่างยอดเยี่ยม ทุกครั้งที่บอลกระดอนหรือหลุดมาในระยะหวังผล ศรายุทธมักจะอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเสมอ

แม้จะไม่ได้เป็นนักเตะที่โดดเด่นในแง่ของเทคนิคหรือความเร็ว แต่ความแม่นยำ การอ่านเกมล่วงหน้า และความเยือกเย็นเมื่อเผชิญหน้ากับผู้รักษาประตูคือคุณสมบัติที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกองหน้าไทยที่แฟนบอลจดจำได้มากที่สุด ความเรียบง่ายแต่ได้ผลของเขาคือสิ่งที่ทำให้เขาได้รับความรักและการยอมรับจากแฟนบอลทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติอย่างแท้จริง

5. วรวุฒิ ศรีมะฆะ – 29 ประตู

กองหน้าไทย
  • ลงเล่น: 75 นัด (1995–2004)

วรวุฒิ ศรีมะฆะ คือผู้เล่นสายขยันที่แม้จะไม่ได้อยู่ในแสงสปอร์ตไลต์เท่ากับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ แต่กลับมีบทบาทสำคัญในทีมยุคทอง เขาเป็นนักเตะที่วิ่งไม่มีหมด ทุ่มเททั้งเกมรุกและเกมรับ มีความสามารถในการเชื่อมบอลจากแดนกลางขึ้นหน้า และรับบทเป็นคนทำงานเงียบ ๆ ที่ช่วยสนับสนุนเกมรุกให้ลื่นไหลอย่างไร้รอยต่อ

แม้จะไม่ได้เป็นผู้เล่นที่ยิงประตูมากมายทุกนัด แต่สิ่งที่เขามอบให้กับทีมคือความสมดุล ความเข้าใจในระบบ และความเสียสละ เขารู้หน้าที่ของตัวเองอย่างชัดเจน และพร้อมจะเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ที่ทำให้ภาพรวมของทีมเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ชื่อของเขาอาจไม่อยู่บนพาดหัวข่าวหรือได้รับคำชื่นชมเท่าคนอื่น แต่ในสายตาของแฟนบอลจำนวนไม่น้อย เขาคือผู้เล่นที่มีความสำคัญอย่างแท้จริง ทั้งในเชิงแท็คติกและจิตใจของเกม

6. สมชาย สัปปเผิม – 20 ประตู

กองหน้าไทย
  • ลงเล่น: 90 นัด (1980s–1990s)

สมชาย สัปปเผิม คือหนึ่งในนักเตะที่อาจไม่ได้เป็นชื่อแรกในเรื่องของจำนวนประตู แต่กลับมีบทบาทสำคัญในสนามด้วยคุณสมบัติที่หาได้ยาก เขาเป็นผู้เล่นที่มีวินัยสูง ทุ่มเทในทุกจังหวะ และเล่นเพื่อผลประโยชน์ของทีมมากกว่าความสำเร็จส่วนตัว แม้จะไม่ได้ยิงถล่มทลาย แต่เมื่อเขาทำได้ มักเป็นประตูที่เปลี่ยนสถานการณ์ของเกม หรือสร้างจุดเปลี่ยนในช่วงเวลาสำคัญอยู่เสมอ

ด้วยบุคลิกที่สุขุม มั่นคง และเข้าใจจังหวะเกมอย่างลึกซึ้ง เขาจึงได้รับความไว้วางใจจากโค้ชและเพื่อนร่วมทีมในฐานะผู้นำในสนามตลอดช่วงเวลาที่ค้าแข้ง และหลังจากแขวนสตั๊ด เขายังไม่หยุดสร้างคุณค่าให้กับวงการ ด้วยบทบาทโค้ชที่ทุ่มเทในการผลักดันนักเตะรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในระดับสโมสรอาชีพ ที่เขามีส่วนในการปั้นดาวรุ่งจำนวนไม่น้อยให้เติบโตขึ้นมาอย่างมั่นคงในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ

สมชายจึงเป็นมากกว่านักเตะผู้ทำประตู แต่คือแบบอย่างของนักกีฬาที่อุทิศชีวิตให้กับฟุตบอลทั้งในสนามและเบื้องหลังความสำเร็จของหลายคน

7. ไกรสร ศรีวิไล – 18 ประตู

กองหน้าไทย
  • ลงเล่น: 50 นัด (1960s–1970s)
  • โดดเด่นในการแข่งขันคิงส์คัพและซีเกมส์
  • ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการจบสกอร์ในพื้นที่แคบ

ไกรสร ศรีวิไล คือหนึ่งในนักเตะระดับตำนานของยุคแรก ๆ ที่แม้จะไม่มีภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอย้อนหลังให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นฝีเท้ากับตาตัวเอง แต่ชื่อของเขายังคงถูกกล่าวถึงเสมอ โดยเฉพาะในหมู่แฟนบอลรุ่นเก่าที่เคยติดตามเกมในสนามจริง เขาคือผู้เล่นตัวหลักของประเทศในช่วงทศวรรษ 1960–1970 ซึ่งเป็นยุคที่การแข่งขันระหว่างชาติในภูมิภาคเริ่มมีบทบาทมากขึ้นและได้รับความนิยมจากประชาชน

ผลงานของเขาในรายการอย่าง คิงส์คัพ และ ซีเกมส์ คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาที่ต่อเนื่องมายังรุ่นหลัง ความแม่นยำในการจบสกอร์ การเคลื่อนไหวที่มีชั้นเชิง และความมุ่งมั่นที่เห็นได้ชัดในทุกนัดที่ลงเล่น ได้กลายเป็นพื้นฐานให้รุ่นน้องหลายคนยึดถือเป็นแบบอย่าง ถึงแม้ข้อมูลในเชิงสถิติของเขาจะมีอยู่อย่างจำกัด แต่เรื่องเล่าและความเคารพที่เขาได้รับจากทั้งแฟนบอลและคนในวงการ คือหลักฐานสำคัญที่สะท้อนถึงคุณค่าและความยิ่งใหญ่ของเขาอย่างไม่มีข้อกังขา

8. ชาตรี ฉิมทะเล – 14 ประตู

กองหน้าไทย
  • ลงเล่น: 30 นัด (2011–2018)

ชาตรี ฉิมทะเล อาจไม่ใช่ชื่อแรกที่ถูกพูดถึงบ่อยนักเมื่อเอ่ยถึงรายชื่อกองหน้าไทยระดับแนวหน้า แต่หากพิจารณาจากผลงานโดยรวมแล้ว เขาคือนักเตะที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงอย่างเงียบ ๆ ด้วยค่าเฉลี่ยการทำประตูต่อเกมที่ยอดเยี่ยมในการรับใช้ทีมชาติ แม้จะไม่ได้ลงสนามมากเท่าผู้เล่นรายอื่น แต่ทุกครั้งที่ได้โอกาส เขามักสร้างผลงานได้น่าประทับใจ

จุดเด่นของเขาคือความแข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศ การอ่านเกมที่แม่นยำ และความเข้าใจจังหวะฟุตบอลในระดับสูง เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่เล่นหวือหวา แต่สามารถใช้จังหวะธรรมดา ๆ สร้างโอกาสสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ สไตล์การเล่นที่เรียบง่ายแต่ได้ผลของชาตรี ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งโค้ชและเพื่อนร่วมทีม และยังเป็นแบบอย่างของนักเตะที่พึ่งพาได้ในทุกสถานการณ์

9. อดิศักดิ์ ไกรษร – 13 ประตู

กองหน้าไทย

ลงเล่น: 47 นัดขึ้นไป (2013–ปัจจุบัน)

อดิศักดิ์ ไกรษร คือหนึ่งในกองหน้าไทยที่สร้างเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ให้แฟนบอลจดจำไปอีกนาน ในการแข่งขัน AFF Suzuki Cup ปี 2018 เขาทำผลงานสุดเหลือเชื่อด้วยการยิงคนเดียว 6 ประตูในแมตช์เดียว ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรายการนี้ การระเบิดฟอร์มในเกมดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้เขาเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำศักยภาพของกองหน้าไทยในเวทีอาเซียนอย่างชัดเจน

อดิศักดิ์มีรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง เล่นบอลได้เร็ว และกล้าทะลุเข้าไปเล่นในพื้นที่แคบ ๆ ที่กองหน้าทั่วไปอาจไม่กล้าเสี่ยง เขาเป็นนักเตะที่มีสไตล์การเล่นแบบดุดัน ไม่กลัวการปะทะ และสามารถพลิกเกมจากจังหวะที่ดูเหมือนไม่มีอะไรได้เสมอ แม้เขาจะมีช่วงฟอร์มตกหรือความสม่ำเสมอที่น้อยกว่ากองหน้าระดับท็อปบางราย แต่เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ เขาคือนักเตะที่พร้อมสร้างความแตกต่างและเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ทันที

ด้วยพลัง ความกล้า และความสามารถในการจบสกอร์ในจังหวะสำคัญ อดิศักดิ์จึงยังคงเป็นชื่อที่แฟนบอลไทยจดจำ และเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความหลากหลายและศักยภาพในตำแหน่งกองหน้าไทยรุ่นปัจจุบัน

10. สุเชาว์ นุชนุ่ม – 11 ประตู

กองหน้าไทย
  • ลงเล่น: 60 นัด (2005–2017)
  • กัปตันทีม
  • ยิงฟรีคิกได้ยอดเยี่ยม
  • แข่งขันอย่างดุเดือดและมีวินัย

แม้ สุเชาว์ นุชนุ่ม จะไม่ใช่กองหน้าตามธรรมชาติ แต่ด้วยความสามารถที่หลากหลายและความเข้าใจเกมในระดับสูง ทำให้เขามักถูกขยับขึ้นไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าหรือหน้าต่ำในหลายแมตช์สำคัญของทีมชาติไทย เขามีลูกยิงที่ทรงพลัง โดยเฉพาะจากระยะไกล และยังเป็นผู้เล่นที่มีความแม่นยำในการยิงฟรีคิกอย่างน่าทึ่ง หลายประตูที่เขาทำได้ในนามทีมชาติมักเกิดจากจังหวะลูกนิ่งที่สร้างความได้เปรียบให้กับทีมในช่วงเวลาสำคัญ

สิ่งที่ทำให้สุเชาว์แตกต่างจากผู้เล่นทั่วไปไม่ใช่แค่ทักษะในเกม แต่คือ บุคลิกผู้นำ และ จิตใจนักสู้ ที่เขานำติดตัวไปทุกครั้งที่ลงสนาม เขาไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แต่ยังช่วยยกระดับจังหวะการเล่นของเพื่อนร่วมทีมและกระตุ้นขวัญกำลังใจในช่วงเวลาที่ทีมต้องการมากที่สุด เขาคือกัปตันผู้สง่างามในยุคที่ทีมชาติไทยกลับมาเป็นจ้าวอาเซียนอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงปี 2014–2016 ซึ่งถือเป็นยุคที่ทีมไทยมีทั้งความกล้า เกมรุกที่เฉียบคม และผู้นำในสนามที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

สุเชาว์จึงเป็นตัวอย่างของนักฟุตบอลที่แม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งกองหน้าโดยตรง แต่ก็สามารถสร้างผลกระทบในเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับการยกย่องในฐานะหนึ่งในนักเตะที่มีอิทธิพลมากที่สุดของทีมชาติไทยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม:-

สรุปข้อมูล 10 ผู้เล่นที่ยิงประตูทีมชาติมากที่สุด

ชื่อผู้เล่นจำนวนประตูจำนวนนัดช่วงเวลาลงเล่นจุดเด่น
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง711341993–2007จบสกอร์เฉียบคม, ผู้นำในสนาม, อดีตโค้ชทีมชาติ
ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน701001981–1997แข็งแกร่ง, ยิงคม, เล่นต่างแดนในยุคแรก
ธีรศิลป์ แดงดา651262007–ปัจจุบันฉลาด, เล่นเนียน, ยิงเฉียบขาด
ศรายุทธ ชัยคำดี29732001–2011จมูกไวในเขตโทษ, โอกาสน้อยแต่แม่น
วรวุฒิ ศรีมะฆะ29751995–2004ขยัน, เชื่อมเกม, สนับสนุนเพื่อน
สมชาย สัปปเผิม20901980s–1990sวินัยสูง, ยิงเปลี่ยนเกม, ผู้นำ
ไกรสร ศรีวิไล18501960s–1970sดาวยิงยุคบุกเบิก, เคลื่อนที่ดี, ทุ่มเท
ชาตรี ฉิมทะเล14302011–2018ลูกกลางอากาศดี, เข้าใจเกม, เล่นเรียบง่าย
อดิศักดิ์ ไกรษร13472013–ปัจจุบันรูปร่างใหญ่, ยิงเร็ว, ฟอร์มเด่นในช่วงสำคัญ
สุเชาว์ นุชนุ่ม11602005–2017ยิงฟรีคิกแม่น, มีภาวะผู้นำ, เล่นหลายตำแหน่ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1.ใครคือกองหน้าไทยที่ยิงประตูให้ทีมชาติมากที่สุด?

ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยิงได้ 71 ประตูจาก 134 นัด

2.ธีรศิลป์ แดงดา อยู่อันดับที่เท่าไรในการทำประตูทีมชาติ?

อยู่อันดับ 3 ด้วยจำนวน 65 ประตู (และยังเล่นอยู่)

3.กองหน้าไทยคนแรกที่เล่นในลาลีกาคือใคร?

ธีรศิลป์ แดงดา กับสโมสร UD Almería

4.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ทำประตูให้ทีมชาติไปกี่ลูก?

ยิงไปทั้งหมด 70 ประตู จาก 100 นัด

5.กองหน้าไทยคนไหนยิง 6 ประตูในเกมเดียว?

อดิศักดิ์ ไกรษร ทำได้ในศึก AFF 2018 พบกับติมอร์-เลสเต้

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top