10 อันดับนักเตะไทยที่มีชื่อลงสนามมากที่สุดตลอดกาล

บทความนี้รวบรวมรายชื่อ 10 อันดับนักเตะไทยที่มีชื่อลงสนามมากที่สุดตลอดกาล พร้อมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจำนวนการติดทีมชาติ จำนวนประตูที่ทำได้ ตำแหน่งที่เล่น และบุคลิกภาพของแต่ละคน นักเตะเหล่านี้ไม่เพียงเป็นตำนานของวงการฟุตบอลไทย แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันจะก้าวสู่ทีมชาติในอนาคต

รวม 10 อันดับดับนักเตะไทยที่มีชื่อลงสนามมากที่สุดต พร้อมสถิติ ตำแหน่ง และบุคลิกของแต่ละคน – เจาะลึกทุกตำนานลูกหนังไทยในบทความเดียว!

1. เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

• จำนวนติดทีมชาติ: 134 นัด
• ประตู: 71 ประตู
• ช่วงเวลา: 1993–2007
• ตำแหน่ง: กองหน้า

“ซิโก้” คือสัญลักษณ์ของนักเตะไทยผู้ไม่ยอมแพ้ ด้วยสถิติการลงเล่นให้ทีมชาติไทย 134 นัด และยิงไปถึง 71 ประตู ทำให้เขาขึ้นแท่นอันดับหนึ่งใน ดับนักเตะไทยที่มีชื่อลงสนามมากที่สุดต ตลอดกาล เขาคือกองหน้าระดับตำนานที่มีส่วนสำคัญในการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ ซีเกมส์, คิงส์คัพ และพาทีมทะลุเข้ารอบลึกในรายการ เอเชียนคัพ สร้างชื่อให้กับฟุตบอลไทยในระดับทวีป

หลังจากอำลาสนาม เขาได้ผันตัวมาเป็นโค้ชทีมชาติไทย และนำพาทีมเข้าสู่ ยุคทองยุคใหม่ ด้วยการคว้าแชมป์ AFF Suzuki Cup ถึง 2 สมัย (2014, 2016) พร้อมทั้งพาทีมผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2018 โซนเอเชีย ได้สำเร็จ ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอลไทย เขาคือนักเตะและโค้ชผู้สร้างแรงบันดาลใจและประวัติศาสตร์ที่คนไทยไม่มีวันลืม

2. ธีรศิลป์ แดงดา

• จำนวนติดทีมชาติ: 128 นัด (ยังลงเล่นอยู่)
• ประตู: 64 ประตู
• ช่วงเวลา: 2007–ปัจจุบัน
• ตำแหน่ง: กองหน้า

บุคลิกภาพ: สุภาพ เรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยคลาส ธีรศิลป์ แดงดา เป็นกองหน้าที่ครบเครื่อง ทั้งการหาพื้นที่ จบสกอร์ และเชื่อมเกมอย่างมีชั้นเชิง เขามีความนิ่งในเกมใหญ่และอ่านเกมได้ดี เป็นหนึ่งในนักเตะไทยไม่กี่คนที่เคยค้าแข้งใน ลาลีกา สเปน กับสโมสรอัลเมเรีย และประสบความสำเร็จใน เจลีก ญี่ปุ่น กับสโมสรซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ซึ่งช่วยยกระดับชื่อเสียงของนักเตะไทยในเวทีระดับนานาชาติ

3. ธชตวัน ศรีปาน

• จำนวนติดทีมชาติ: 110 นัด
• ประตู: 19 ประตู
• ช่วงเวลา: 1993–2009
• ตำแหน่ง: กองกลาง

บุคลิกภาพ: เป็นผู้นำที่เงียบขรึม มีความนิ่งและสุขุมในสนาม พร้อมวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยมในการคุมเกม การจ่ายบอลของเขาแม่นยำและมีจังหวะการเล่นที่ลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ หลังจากแขวนสตั๊ด เขาก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกุนซือแถวหน้าของไทย โดยเน้นพัฒนาทั้งแท็คติกและการปลุกปั้นนักเตะเยาวชนอย่างจริงจัง

4. ธีราทร บุญมาทัน

• จำนวนติดทีมชาติ: 105 นัด (ยังลงเล่นอยู่)
• ประตู: 7 ประตู
• ช่วงเวลา: 2010–ปัจจุบัน
• ตำแหน่ง: แบ็คซ้าย / กองกลาง

บุคลิกภาพ: นักเตะที่มีวินัยสูง มีสมาธิและความมุ่งมั่นตลอดทั้งเกม โดดเด่นในการอ่านสถานการณ์และตัดสินใจอย่างชาญฉลาด เขาคือคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เจลีกกับ Yokohama F. Marinos และถือเป็นต้นแบบของนักเตะยุคใหม่ที่กล้าออกไปพิสูจน์ตัวเองในต่างแดนอย่างภาคภูมิ

5. ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน

• จำนวนติดทีมชาติ: 100 นัด
• ประตู: 70 ประตู
• ช่วงเวลา: 1981–1997
• ตำแหน่ง: กองหน้า

บุคลิกภาพ: ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน คือหนึ่งในดาวยิงระดับตำนานของวงการฟุตบอลไทยและเอเชีย ด้วยลีลาการเล่นที่เต็มไปด้วยพลัง ความแม่นยำ และสัญชาตญาณการทำประตูที่เฉียบขาด เขามักจะหาพื้นที่ในเขตโทษได้อย่างชาญฉลาด และมีจังหวะจบสกอร์ที่คมกริบจนได้รับฉายาว่า “เครื่องจักรถล่มประตู” เขาคือศูนย์หน้าผู้นำทีมชาติไทยในยุคทองช่วงทศวรรษ 80–90 โดยฝากผลงานไว้ทั้งในซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และคิงส์คัพ จนกลายเป็นขวัญใจแฟนบอลทั่วประเทศ

หลังจากอำลาสนาม เขาไม่ห่างจากวงการฟุตบอล ยังคงมีบทบาทในฐานะพิธีกร นักวิจารณ์ และผู้ถ่ายทอดความรู้ด้านฟุตบอลผ่านรายการโทรทัศน์และสื่อกีฬา ด้วยบุคลิกที่เป็นกันเอง มีอารมณ์ขัน และเข้าใจเกมในทุกมิติ เขากลายเป็นที่รักของแฟนบอลทุกวัย และเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในเส้นทางลูกหนัง

6. ดัสกร ทองเหลา

• จำนวนติดทีมชาติ: 100 นัด
• ประตู: 11 ประตู
• ช่วงเวลา: 2003–2017
• ตำแหน่ง: กองกลาง

บุคลิกภาพ: ดัสกร ทองเหลา เป็นกองกลางจอมเทคนิคที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง พร้อมความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่นในการจ่ายบอลและควบคุมเกมรุก เขาเป็นนักเตะที่มีสไตล์การเล่นเฉพาะตัว กล้าพาบอลไปข้างหน้า เปิดบอลแม่นยำ และสามารถสร้างจังหวะอันตรายได้ทุกครั้งที่ครองบอล ด้วยบุคลิกที่เด็ดเดี่ยวและไม่ยอมแพ้ง่าย ทำให้เขาเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยมาอย่างยาวนาน

นอกจากนี้ ดัสกรยังมีบทบาทสำคัญในการพา “ช้างศึก” คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ หลายสมัย และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกยกให้เป็น “มันสมองในแดนกลาง” ของทีม ด้วยประสบการณ์ระดับนานาชาติ และทักษะที่ครบเครื่อง เขากลายเป็นต้นแบบของนักเตะหมายเลข 10 ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและจิตวิญญาณของผู้นำในสนาม

อ่านเพิ่มเติม:-

• 10 อันดับนักฟุตบอลที่เร็วที่สุดตลอดกาล
• รายชื่อพลังแห่งบัลลงดอร์ 2025: 10 นักฟุตบอลที่โดดเด่นที่สุดแห่งปี

7. ดุสิต เฉลิมแสน

• จำนวนติดทีมชาติ: 97 นัด
• ประตู: 14 ประตู
• ช่วงเวลา: 1994–2004
• ตำแหน่ง: แบ็คซ้าย

บุคลิกภาพ: ดุสิต เฉลิมแสน เป็นแบ็คซ้ายระดับตำนานที่โดดเด่นทั้งในเกมรับและเกมรุก เขามีความแม่นยำในการเปิดบอลและจ่ายบอลอย่างเฉียบคม สามารถเติมเกมขึ้นสูงได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญลูกตั้งเตะ โดยเฉพาะฟรีคิกที่ขึ้นชื่อว่าแรงและแม่นยำ เป็นอาวุธเด็ดที่ทำให้คู่แข่งต้องระวังอยู่เสมอ

ในยุคที่ทีมชาติไทยครองความยิ่งใหญ่ในอาเซียนช่วงปลายยุค 90 ถึงต้นยุค 2000 ดุสิตคือหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเกมริมเส้น และมีส่วนร่วมอย่างมากในการคว้าแชมป์ซีเกมส์ และเข้ารอบลึกในรายการระดับเอเชีย หลังจากแขวนสตั๊ด เขาผันตัวสู่เส้นทางโค้ช โดยมีชื่อเสียงในด้านความเข้าใจแท็คติกที่ลึกซึ้ง การวางแผนเกมอย่างรัดกุม และความสามารถในการดึงศักยภาพของนักเตะออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้เขากลายเป็นกุนซือที่ได้รับการยอมรับในระดับสโมสรและวงการฟุตบอลไทย

8. นิเวศ ศิริวงศ์

• จำนวนติดทีมชาติ: 90 นัด
• ประตู: 3 ประตู
• ช่วงเวลา: 1997–2012
• ตำแหน่ง: กองหลัง

บุคลิกภาพ: นิเวศ ศิริวงศ์ เป็นกองหลังสายแข็งที่มีความนิ่ง สุขุม และเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในการเข้าปะทะ เขามีทักษะการอ่านเกมที่แม่นยำ รู้จังหวะในการเข้าสกัดอย่างชาญฉลาดโดยไม่เสียเปรียบ เป็นผู้นำแนวรับที่เชื่อถือได้ ซึ่งช่วยให้เกมรับของทีมชาติไทยมีความมั่นคงและยากต่อการเจาะทะลุ

ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่เขารับใช้ทีมชาติ นิเวศมีบทบาทสำคัญในการประคองเกมยามตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน และมักจะเป็นคนที่คอยบัญชาเกมรับจากแดนหลังด้วยความเยือกเย็นและมีประสบการณ์สูง เขาเป็นแบบอย่างของกองหลังที่มีทั้งความแข็งแกร่ง ความอดทน และวินัยในสนาม ซึ่งหาได้ยากในยุคนั้น และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวรับรุ่นใหม่ของไทยในยุคต่อมา

9. นที ทองสุขแก้ว

• จำนวนติดทีมชาติ: 87 นัด
• ประตู: 1 ประตู
• ช่วงเวลา: 1986–2000
• ตำแหน่ง: กองกลาง

บุคลิกภาพ: นที ทองสุขแก้ว คือนักเตะสายบู๊ในยุคบุกเบิกของฟุตบอลไทย ด้วยความอึด ทน แกร่ง และสปิริตนักสู้เต็มร้อย เขาเป็นนักเตะที่ไม่ยอมแพ้ต่อสถานการณ์ใด ๆ ในสนาม วิ่งไม่มีหมดตลอด 90 นาที และพร้อมวิ่งไล่บีบพื้นที่ตั้งแต่นาทีแรกจนจบเกม ความทุ่มเทของเขาทำให้เขาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีมชาติไทยในช่วงที่ฟุตบอลยังไม่เป็นอาชีพเต็มตัว

ด้วยบุคลิกที่มุ่งมั่น ซื่อสัตย์ในหน้าที่ และเล่นด้วยหัวใจ เขาได้รับความไว้วางใจจากโค้ชและเพื่อนร่วมทีมอย่างมาก แม้จะไม่ได้เป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงด้านเทคนิคหรือการทำประตูมากนัก แต่นทีคือจิ๊กซอว์ที่ขาดไม่ได้ของทีมชาติในยุคที่ต้องใช้ความฟิตและความเสียสละเป็นหลัก ความสามารถในการแย่งบอล บังพื้นที่ และเชื่อมเกมรับ-รุกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย คือสิ่งที่ทำให้เขายืนระยะกับทีมชาติได้ยาวนานและเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้

10. สุรชัย จตุรภัทรพงศ์

• จำนวนติดทีมชาติ: 86 นัด
• ประตู: 7 ประตู
• ช่วงเวลา: 1991–2002
• ตำแหน่ง: กองกลาง

บุคลิกภาพ: สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ คือหนึ่งในนักเตะสารพัดประโยชน์ที่หาตัวจับยากในยุคของเขา ด้วยความสามารถในการเล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ ทำให้เขากลายเป็นแกนหลักของทีมชาติไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะในฐานะกองกลางตัวรุกที่สามารถวางบอลแม่นยำ หรือเป็นตัวคุมจังหวะเกมในยามที่ทีมต้องการความนิ่ง เขาก็สามารถรับบทบาทนั้นได้อย่างไร้ที่ติ

ด้วยความทุ่มเทและความสม่ำเสมอในฟอร์มการเล่น สุรชัยจึงเป็นที่เคารพทั้งในหมู่เพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลทั่วประเทศ เขามีบุคลิกของผู้นำโดยธรรมชาติ สื่อสารในสนามได้ดีและเป็นกำลังสำคัญในการปลุกขวัญกำลังใจให้ทีมในทุกสถานการณ์ นอกจากฝีเท้าที่โดดเด่น เขายังเป็นแบบอย่างของความมีวินัย ความอดทน และความเสียสละให้กับนักเตะรุ่นหลังได้ยึดถือ

สุรชัยถือเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญใน ดับนักเตะไทยที่มีชื่อลงสนามมากที่สุดต ด้วยสถิติลงเล่นให้ทีมชาติถึง 86 นัด พร้อมบทบาทที่โดดเด่นทั้งในและนอกสนาม ทำให้เขากลายเป็นตำนานที่ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้วงการฟุตบอลไทยจนถึงทุกวันนี้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ที่มา:- Thailand national football team