อาร์เซนอลคว้าแชมป์ยูฟ่า วีเมนส์ แชมเปี้ยนส์ ลีก และสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสร อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขันได้ที่นี่
อาร์เซนอลคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกหญิง ฤดูกาล 2024/25 ด้วยชัยชนะ 1-0 เหนือบาร์เซโลนา ในรอบชิงชนะเลิศที่จัดขึ้นที่เมืองลิสบอน เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม โดยได้ประตูชัยจาก สตีน่า แบล็คสเตนิอุส

ขอแนะนำแชมป์ยุโรปทีมใหม่!
อันดับค่าสัมประสิทธิ์ยูฟ่า (สิ้นสุดฤดูกาล 2023/24): อันดับ 7
เส้นทางการผ่านเข้ารอบ:
- จบอันดับ 3 ในลีกอังกฤษ
- รอบคัดเลือก:
- ชนะ เรนเจอร์ส 6-0 (เหย้า)
- ชนะ โรเซนบอร์ก 1-0 (เหย้า)
- ชนะ ฮัคเค่น 4-1 สกอร์รวม (แพ้ 0-1 เยือน, ชนะ 4-0 เหย้า)
Read more:-
รอบแบ่งกลุ่ม: แชมป์กลุ่ม C
- แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 2-5 (เยือน)
- ชนะ โวเลเรนก้า 4-1 (เหย้า)
- ชนะ ยูเวนตุส 4-0 (เยือน)
- ชนะ ยูเวนตุส 1-0 (เหย้า)
- ชนะ โวเลเรนก้า 3-1 (เยือน)
- ชนะ บาเยิร์น มิวนิค 3-2 (เหย้า)
รอบน็อกเอาต์
รอบก่อนรองชนะเลิศ:
- แพ้ เรอัล มาดริด 0-2 (เยือน)
- ชนะ เรอัล มาดริด 3-0 (เหย้า) — ชนะรวม 3-2
รอบรองชนะเลิศ:
- แพ้ ลียง 1-2 (เหย้า)
- ชนะ ลียง 4-1 (เยือน) — ชนะรวม 5-3
รอบชิงชนะเลิศ:
- ชนะ บาร์เซโลนา 1-0 (ที่ลิสบอน)
ฮีโร่ในรอบชิงชนะเลิศ:
สตีน่า แบล็คสเตนิอุส ลงสนามในฐานะตัวสำรองและยิงประตูชัยให้อาร์เซนอลคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่
ดาวซัลโว (ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม):
- มารีโอน่า คัลเดนเตย์ – 7 ประตู
- อเลสเซีย รุสโซ – 7 ประตู
หัวหน้าโค้ช: เรเน่ สเลเกอร์ส

เรเน่ สเลเกอร์ส อดีตนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เข้ารับตำแหน่งแทน โจนาส ไอเดวาลล์ กลางฤดูกาล และพาอาร์เซนอลคว้าแชมป์ยุโรป เธอเคยเป็นเยาวชนของอาร์เซนอลและคว้าแชมป์ลีกสวีเดนกับโรเซนการ์ด ก่อนเข้ารับตำแหน่งกุนซือเต็มตัวในเดือนมกราคม 2025
เกร็ดประวัติศาสตร์
- แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกหญิงครั้งก่อน: ฤดูกาล 2006/07
- สถิติรอบชิงชนะเลิศ: ชนะ 2 แพ้ 0
- เกียรติยศในประเทศ: แชมป์ลีก 15 สมัย, แชมป์ฟุตบอลถ้วย 14 สมัย
รู้หรือไม่?
อาร์เซนอลกลายเป็นทีมที่สองในประวัติศาสตร์ที่พลิกสถานการณ์กลับมาชนะได้หลังแพ้เลกแรกในรอบก่อนรองชนะเลิศถึง 2-0 (เคยทำได้เองในปี 2004/05) และเป็นทีมที่ 4 ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้หลังแพ้เลกแรกในบ้านในรอบรองชนะเลิศ
สรุป
เส้นทางสู่แชมป์ของอาร์เซนอลในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกหญิง 2023/24 เต็มไปด้วยการคัมแบ็กสุดดราม่า แผนการเล่นที่เฉียบคม และบทสรุดสุดแสนจะงดงาม หลังจากรอคอยมา 18 ปี พวกเธอกลับมาครองความยิ่งใหญ่อีกครั้งในยุโรปอย่างคู่ควร
Source:-